698 จำนวนผู้เข้าชม |
พฤติกรรมกลั่นแกล้งในสถานศึกษา
และคำแนะนำสำหรับคุณครู
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา
Marid Kaewchinda (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นักจิตบำบัด EMDR Psychotherapy/ Brainspotting Psychotherapy
ในฐานะครูอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจหากต้องจัดการกับสถานการณ์การถูกกลั่นแกล้ง (bully)
ครูควรทำอย่างไรหากเด็กมาขอความช่วยเหลือ?
ครูควรทำอย่างไรหากเด็กเป็นพยานเหตุการณ์กลั่นแกล้ง และต้องการความช่วยเหลือ?
หากบางครั้งเด็กไม่ได้มาขอความช่วยเหลือแต่ครูสังเกตเห็นพฤติกรรมของเด็กที่เปลี่ยนไปจากเดิมควรช่วยเหลืออย่างไร?
ผลกระทบจากการถูก Bully ในสถานศึกษาส่งผลอย่างไร?
เด็กนักเรียนใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียน เด็กที่ถูกกลั่นแกล้ง มักได้รับผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อการเรียน สุขภาพจิต สุขภาพร่างกายและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เด็กอาจไม่บอกพ่อแม่ผู้ปกครองว่าตัวเขาต้องเผชิญกับอะไรในโรงเรียน มีแต่ครูเท่านั้นที่สามารถให้การช่วยเหลือเขาได้
คุณครูควรช่วยเด็กให้เข้าใจว่าพฤติกรรม นิสัยที่ไม่ดีของคนอื่นไม่ใช่สิ่งสะท้อนตัวตนของเด็กที่ถูกกระทำ คนที่ทำไม่ดีกับเราไม่ใช่ความผิดของเรา เพราะเด็กมักคิดว่าการที่ถูกเพื่อนแกล้งเป็นเพราะตัวเขาเองที่อาจทำอะไรไม่ดีจนเพื่อนทนไม่ได้และกลั่นแกล้ง
3. แยกแยะให้ออกระหว่างการล้อเล่น กับการถูกกลั่นแกล้ง
คุณครูควรสังเกตว่าความสัมพันธ์ของเด็กๆ ว่าสัมพันธภาพเป็นอย่างไร เช่น เฉยชา เย็นชา ไม่สนิท มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงหรือไม่ เด็กกำลังถูกกลั่นแกล้งหรือไม่
หากไม่มั่นใจควรเข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัวทั้งสองฝ่ายด้วยความรักและความเห็นใจเป็นห่วงเป็นใยเพื่อให้รู้สาเหตุแท้จริง เพื่อรับรู้ความคิดและความรู้สึกของเด็กที่มี พูดคุยและรับฟัง
4. เตรียมขั้นตอนการช่วยเหลือ
หากเด็กถูกกลั่นแกล้งจริง เด็กมักต้องเผชิญกับภาวะความโดดเดี่ยวและความทุกข์ใจโดยลำพังมาเป็นเวลานาน ควรแยกออกมาและให้การช่วยเหลือ พูดคุยด้วยความรักและความเข้าใจ รับฟังความรู้สึกที่เด็กอยากบอก แต่หากเด็กยังไม่พร้อมจะพูด คุณครูไม่ควรคาดคั้น
คำแนะนำสำหรับคุณครู
1. คุณครูควรรายงานพฤติกรรมการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้น
ครูควรส่งเรื่องรายงานให้กับหัวหน้าระดับ หรือผู้บริหารรับทราบ โรงเรียนควรมีความชัดเจนและมีมาตรการให้ความช่วยเหลือที่เด็กสามารถเข้าถึงได้
เด็กควรรับรู้สิทธิของตัวเอง ว่าเมื่อมีพฤติกรรมการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นควรไปหาใคร ไปบอกหรือพูดคุยกับใครที่ทำให้เด็กรู้สึกมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือเขาได้ และบุคคลากรของโรงเรียนทุกคนควรมีการฝึกฝนปฏิบัติในเรื่องการรับมือกับพฤติกรรมการกลั่นแกล้งในหลากหลายรูปแบบอย่างมืออาชีพและสามารถช่วยเหลือเหยื่อในสถานการณ์ที่หลากหลายได้
2. โรงเรียนควรให้นิยาม คำจำกัดความ ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง
พฤติกรรมการกลั่นแกล้งมักมาในหลากหลายรูปแบบดังนั้นโรงเรียนจึงต้องสร้างความเข้าใจให้กับเด็กว่าแบบไหนถึงเข้าข่ายที่เรียกว่าถูกกลั่นแกล้ง เพื่อให้เด็กได้มีความเข้าใจถึงพฤติกรรมว่าอันไหนคือพฤติกรรมที่ไม่ควรยอมและยอมรับไม่ได้ เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจที่จะแจ้งเบาะแสและรายงานการถูกกลั่นแกล้งได้อย่างมั่นใจ และทางโรงเรียนสามารถนำมาแก้ไขปรับปรุงและทำงานช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ปกป้องสิทธิของผู้รายงานพฤติกรรมกลั่นแกล้ง
ควรรับฟังว่าเด็กที่มาแจ้ง หรือตกเป็นเหยื่อต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไร บางครั้งเด็กกลัวการบอกผู้ใหญ่เพราะไม่มั่นใจว่าผลที่ตามมาจะทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือไม่ หรือจะถูกกลั่นแกล้งหนักขึ้นหรือไม่จึงเลือกที่จะเงียบและไม่รายงาน
ดังนั้นคุณครูควรให้ความสำคัญกับการรับฟังอย่างเข้าใจและเปิดพื้นที่ในการพูดคุยสื่อสารความต้องการของเด็กอย่างแท้จริงเพื่อช่วยหาวิธีการแก้ไข
4. มีการจัดการกับปัญหาการกลั่นแกล้งที่ชัดเจน
นโยบายต่อต้านการกลั่นแกล้ง (anti-bullying) ของโรงเรียนจะเป็นการช่วยสนับสนุนการจัดการพฤติกรรมการกลั่นแกล้งได้แต่ต้องมันใจว่าพฤติกรรมนี้จะต้องหมดไปจริงๆ และควรสนับสนุนให้ทุกคนทำงานเพื่อต่อต้านพฤติกรรมกลั่นแกล้งไปในทิศทางเดียวกันในสังคมโรงเรียน
5. มีการสื่อสารระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาพฤติกรรมการกลั่นแกล้งอาจต้องใช้ระยะเวลา อย่างไรก็ตามควรให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนในการรับรู้และสนับสนุนเพื่อให้เกิดความเข้าใจและประสานงานร่วมมือกับการโรงเรียนในการทำพฤติกรรมกลั่นแกล้งให้หมดไปจากโรงเรียน
6. การจัดบริการให้การปรึกษาทางจิตวิทยา (Counseling service)
หากเด็กเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้ง โรงเรียนควรอย่างยิ่งที่ต้องจัดบริการปรึกษาทางจิตวิทยา เพื่อให้เด็กมีที่พึ่ง รู้สึกมีพื้นที่ปลอดภัยและมีความเชื่อใจในการเปิดใจพูดคุยปัญหาและความรู้สึกต่างๆ โดยปราศจากความหวาดกลัวหรือความกังวลใดๆ
หากปัญหาพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนเป็นเรื่องยากเกินกว่าคุณครูและผู้บริหารโรงเรียนจะจัดการได้ ควรปรึกษานักจิตวิทยามืออาชีพเพื่อช่วยกันในการจัดการกับปัญหาให้เด็ดขาด
อ้างอิง
https://www.counselling-directory.org.uk/bullying-advice-teachers.html#:~:text=Be%20clear%20on%20your%20response%20to%20bullying&text=You%20need%20to%20challenge%20the,is%20on%20the%20same%20page.