8 วิธี ดูแลสมอง & จิตใจ ให้แข็งแรง คู่ใจวัย 40+ และผู้ที่ห่วงสุขภาพสมอง

25 จำนวนผู้เข้าชม  | 

8 วิธี ดูแลสมอง & จิตใจ ให้แข็งแรง  คู่ใจวัย 40+ และผู้ที่ห่วงสุขภาพสมอง

8 วิธี “ดูแลสมอง & จิตใจ” ให้แข็งแรง — คู่ใจวัย 40+ และผู้ที่ห่วงสุขภาพสมอง

โดย: ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D) ผู้เชี่ยวชาญ:
นักจิตวิทยาการปรึกษา,
นักจิตบำบัด EMDR/Brainspotting Psychotherapy

 

การดูแลสมองและสุขภาพจิตไม่ควรรอให้สาย — เพราะสมองเราอาจค่อย ๆ เสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น หรือได้รับความเครียดสะสมจากชีวิตประจำวัน ถ้าคุณอยากมีสมองปลอดโปร่ง จิตใจแจ่มใส และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่สดใส

ลองดู 8 วิธีที่ช่วยดูแลทั้งสมองและจิตใจไปพร้อมกัน เผื่อเป็นแนวทางที่ใช่สำหรับคุณ

 1. กินให้ “ดี” — บำรุงสมองจากภายใน
อาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพทั้งร่างกายและสมอง — โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น ควรเลือกอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหาร บำรุงสมอง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ปลา ถั่ว และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปของหวาน มัน เค็ม เพราะอาหารดี ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองและภาวะสมองเสื่อมได้. 

2. ฝึกสมองให้ “ใช้” — เรียนรู้ เล่นเกม คิดท้าทาย

สมองก็เหมือนกล้ามเนื้อ — ถ้าไม่ใช้งานก็อ่อนแอได้ เมื่อคุณหมั่นฝึกทักษะใหม่ ๆ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมปริศนา เรียนภาษา ดนตรี หรือกิจกรรมที่ต้องคิดอยู่เสมอ — จะช่วยสร้าง “การเชื่อมโยงใหม่” ในสมอง ทำให้สมองยังคงไว และช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมตามวัยได้. 

3. เคลื่อนไหวร่างกาย — ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้น ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง ส่งสารอาหารและออกซิเจน พร้อมช่วยให้สมองทำงานได้ดี และลดโอกาสภาวะเสื่อมของสมอง. 


4. พักผ่อน-นอนให้เพียงพอ — สมองได้ “รีเซ็ต”

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะช่วยให้สมองได้พัก ฟื้นฟู และล้างสารพิษที่สะสมระหว่างวัน ถ้าเราพักผ่อนไม่พอหรือคุณภาพการนอนไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความจำเสื่อม การคิดช้า และอารมณ์แปรปรวน. 

5. สร้างสัมพันธ์ — พบปะ สื่อสาร เข้าสังคม

การเข้าสังคม พูดคุยกับคนรอบข้าง ทำกิจกรรมกับเพื่อน ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน — เป็นการกระตุ้นสมองด้านสังคมและอารมณ์ ช่วยลดความเหงา ความเครียด และภาวะซึมเศร้า พร้อมช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น. 

6. รักษาสุขภาพจิต — อย่าให้เครียดสะสม
ความเครียดเรื้อรัง ความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า มีผลต่อสมองและความจำในระยะยาว หากคุณรู้สึกเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ หรือมีปัญหาด้านอารมณ์ — หาเวลาพัก หาเพื่อนคุย ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตจะช่วยให้ใจสงบ และสมองปลอดภัยกว่า. 

7. ดูแลร่างกายโดยรวม — ควบคุมโรคประจำตัว & หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
โรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป — ทั้งหมดนี้เพิ่มโอกาสเกิดสมองเสื่อมได้ การตรวจสุขภาพประจำปี ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และดูแลสุขภาพให้ดี คือการลงทุนเพื่อสมองของคุณในระยะยาว. 

8. ถ้ามีปัญหา — อย่ารอที่จะขอ “มืออาชีพ” ช่วยดูแล
ถ้าคุณรู้สึกว่า “เครียดเกินไป” “จัดการอารมณ์เองไม่ไหว” “นอนไม่หลับ” หรือ “ความทรงจำเริ่มแย่ลง” — การขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา/นักบำบัดจิตใจ หรือผู้เชี่ยวชาญสุขภาพจิต ย่อมเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะปัญหาจิตใจ ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหาสมองในระยะยาวได้


ทำไม “Better Mind” คือคำตอบที่ใช่เมื่อคุณอยากดูแลใจ & สมอง


Better Mind มีทีม นักจิตวิทยาและนักบำบัดมืออาชีพ พร้อมประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี พร้อมดูแลตั้งแต่เรื่อง เครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล ไปจนถึงปัญหา “บาดแผลทางใจ (Trauma / PTSD)” และปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว/คู่รัก

  • เราให้บริการได้ทั้ง พบตัว (face-to-face) และ ออนไลน์ (video call/tele-therapy) — สะดวกสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการดูแลจิตใจ แม้อยู่คนละจังหวัดหรืออยู่ต่างประเทศก็ใช้บริการได้ 
  • เทคนิคบำบัดที่หลากหลาย — จาก EMDR, Brainspotting, Counseling และ Psychotherapy — ทำให้เราเข้าถึงปัญหาที่หลากหลาย และออกแบบแนวทางการดูแลให้เหมาะกับแต่ละบุคคล


“เราไม่ตัดสิน แต่จะฟังอย่างเข้าใจ” — เพราะทุกเรื่องของคุณมีค่ากับเรา
ถ้าคุณพร้อมให้ “ใจ” ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง
อย่าปล่อยให้ความเครียด ความเหงา หรือความกังวลสะสมจนทำร้ายจิตใจและสมองไปเรื่อย ๆ
 นัดหมาย  ผ่าน LINE: bettermind.th หรือโทร 083-120-6556 แล้วมาร่วมเส้นทางการเยียวยาอย่างเป็นมิตรและปลอดภัยไปด้วยกัน


FAQ คำถามท้ายบทความ

1) อายุ 40+ ต้องเริ่มดูแลสมองไหม?
ควรเริ่มทันทีครับ เพราะการเสื่อมของสมองเริ่มตั้งแต่อายุ 30+ แต่สามารถชะลอได้ด้วยอาหาร การนอน การออกกำลังกาย และลดความเครียด

2) ความเครียดทำให้สมองเสื่อมจริงไหม?
จริง ความเครียดเรื้อรังทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ซึ่งทำลายเซลล์สมองบริเวณฮิปโปแคมปัส ส่งผลให้ความจำลดลง

3) การออกกำลังกายสมองคืออะไร?
คือกิจกรรมที่ช่วยให้สมองสร้างเส้นใยประสาทใหม่ เช่น ฝึกจำตัวเลข เล่นปริศนา อ่านหนังสือ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่

4) ทำไมการนอนหลับสำคัญกับสุขภาพสมอง?
เพราะการนอนคือเวลาที่สมองกำจัดของเสียและฟื้นฟูเซลล์ การอดนอนทำให้สมองล้า ความจำแย่ลง และอารมณ์แปรปรวน

5) จิตบำบัดหรือ EMDR ช่วยสุขภาพสมองได้ไหม?
ได้ เพราะช่วยประมวลความเครียดที่ฝังอยู่ ลดความตึงเครียดทางระบบประสาท ทำให้สมองทำงานสมดุลขึ้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้