จิตบำบัดแบบ EMDR กับการรักษาโรคการกินผิดปกติ

456 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จิตบำบัดแบบ EMDR กับการรักษาโรคการกินผิดปกติ

จิตบำบัดแบบ EMDR กับการรักษาโรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders)


ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner
 

จิตบำบัดแบบ EMDR กับการรักษาโรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders)

โรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders) เช่น Anorexia Nervosa, Bulimia Nervosa, และ Binge Eating Disorder เป็นภาวะที่ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ผู้ป่วยมักมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้ภาพลักษณ์ตนเอง (Body Image) และความเครียดที่เกี่ยวข้องกับอาหาร

โรคการกินไม่ปกติ (Eating disorders) เป็นภาวะการณ์กินที่ผิดปกติ ถึงแม้ว่าบางคนจะรู้ตัวว่าต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ออกกำลังกายและวางแผนเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ และวิธีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนี้ก็อาจได้ผลกับคนบางกลุ่มเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม eating disorder ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการตัวเองในชีวิตประจำวันเพียงภายนอกอย่างเดียว แต่ eating disorder เป็นเรื่องของภาวะทางจิตใจที่มีปมบาดแผลทางใจซ่อนอยู่ ติดค้างอยู่ในจิตใจที่ยังก้าวข้ามผ่านไปไม่ได้ และอาหารเป็นแค่เพียงหนทางเดียวของผู้ป่วย eating disorder ที่ช่วยให้หลีกหนีความคิดและความรู้สึกอันเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต การทำให้ตัวเองโหยหาหรืออยากอาหารเพื่อช่วยให้รู้สึกถึงว่าสามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ในเวลาที่ตัวเองรู้สึกต้องการความปลอดภัย


ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือ EMDR Therapy (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) ซึ่งช่วยจัดการกับบาดแผลทางใจ (Trauma) และความเชื่อเชิงลบที่เป็นรากฐานของโรคการกินผิดปกติ

อ่านเพิ่มเติม 
Trauma คืออะไร?
PTSD คืออะไร


 

โรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders) คืออะไร?


โรคการกินผิดปกติเป็นความผิดปกติทางจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกินและการรับรู้ร่างกาย ตัวอย่างเช่น:

Anorexia Nervosa: กลัวการอ้วน กินน้อยเกินไป น้ำหนักต่ำกว่าปกติ
Bulimia Nervosa: กินมากเกินไปแล้วชดเชยด้วยการอาเจียนหรือใช้ยาระบาย
Binge Eating Disorder: กินมากเกินไปอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ไม่ชดเชย

อ่านต่อ: Panic Attack และ Anxiety Disorder แตกต่างกันอย่างไร

 

 

ความสัมพันธ์ระหว่าง Trauma และ Eating Disorders

งานวิจัยจำนวนมากพบว่า ผู้ที่มี Eating Disorders มักมีประสบการณ์ Trauma ในวัยเด็ก เช่น การถูกล้อเรื่องรูปร่าง การถูกละเลย หรือการถูกทำร้ายทางอารมณ์และร่างกาย  สิ่งเหล่านี้กลายเป็นรากฐานของ ความเชื่อเชิงลบ (Negative Core Beliefs) ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการกินผิดปกติ

 

EMDR Therapy คืออะไร?
EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) เป็นการบำบัดที่ช่วยสมองประมวลผลความทรงจำบาดแผล โดยใช้การเคลื่อนไหวของดวงตาหรือสิ่งกระตุ้นสองข้าง (Bilateral Stimulation) ทำให้สมองจัดเก็บความทรงจำในรูปแบบใหม่  ลดอิทธิพลของ Trauma ต่อพฤติกรรมและอารมณ์

 อ่านเพิ่มเติม: EMDR Therapy คืออะไร?

 

EMDR Therapy กับการรักษาโรคการกินผิดปกติ

1. จัดการกับ Trauma ที่เป็นต้นเหตุ
ช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจ เช่น การถูกบูลลี่เรื่องรูปร่าง การถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง ซึ่งมักเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Eating Disorders

2. ลดความเชื่อเชิงลบเกี่ยวกับตนเอง
EMDR ช่วยปรับเปลี่ยนความเชื่อ เช่น “ฉันไม่ดีพอ” หรือ “ฉันต้องผอมถึงจะมีค่า” ทำให้ผู้ป่วยมองตนเองในมุมบวกมากขึ้น

3. ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับร่างกาย
เมื่อ Trauma ได้รับการเยียวยา ผู้ป่วยจะค่อย ๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับร่างกายและพฤติกรรมการกิน

 

EMDR เทียบกับการรักษาอื่น

  • Brainspotting Therapy เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีศักยภาพสูงในการรักษา Eating Disorder เพราะช่วยเยียวยา Trauma ที่เป็นรากฐาน ลดความเชื่อเชิงลบ และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ที่ดีกับร่างกายและอาหาร
  • CBT (Cognitive Behavioral Therapy): เน้นปรับความคิดและพฤติกรรม
    DBT (Dialectical Behavior Therapy): ช่วยเรื่องการควบคุมอารมณ์
  • EMDR: เจาะลึกไปที่ Trauma และความเชื่อรากฐาน → เสริมผลลัพธ์ของการรักษาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สรุป
โรคการกินผิดปกติเป็นภาวะที่ซับซ้อน แต่สามารถรักษาได้หากจัดการทั้งพฤติกรรม ความคิด และ Trauma ต้นเหตุ การใช้ EMDR Therapy เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับร่างกายตนเองได้

 






Eating disorders เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกาย แต่แท้จริงแล้วสาเหตุมาจากปัจจัยแวดล้อมทางภายนอก เช่นความเครียดต่างๆ ปัญหาที่สร้างปมบาดแผลทางใจ การถูกรังแกกลั่นแกล้ง การถูกล้อเลียนที่โรงเรียน การถูกล่วงละเมิด การถูกทำร้ายร่างกายหรือทางจิตใจ รวมทั้งปัญหาที่สร้างความเจ็บปวดทางใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไขจนส่งผลทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่โตสะสม

ดังนั้นการใช้จิตบำบัดแบบ EMDR โดยผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษา eating disorder ที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ เมื่อเริ่มกระบวนการรักษาและบำบัดด้วยจิตบำบัดแบบ EMDR เหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยทำให้เจ็บปวดจนเกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เช่น 

  • การอดอาหาร
  • กินน้อยผิดปกติ
  • หรือกินมากเกินปกติ
กระบวนการบำบัดด้วย EMDR Therapy จะทำงานกับความทรงจำเพื่อนำไปแก้ไขด้านการช่วยบำบัดด้านอารมณ์ ภาวะทางจิตใจที่ไม่มั่นคง ช่วยลดอาการการถูกกระตุ้นจากความคิดและความทรงจำอันเลวร้ายที่ไม่เคยถูกแก้ไขให้เป็นปกติ ในขณะเดียวกันก็เริ่มปลูกฝังความทรงจำด้านบวก ความเชื่อและความหวังให้มีพลังใจควบคู่กันกับการบำบัดรักษาไปด้วย




 


 อย่างไรก็ตามการบำบัด eating disorder ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องการกินอาหารที่ถูกต้องหรือควรกินอะไร อย่างไร แบบไหน แต่การรักษา eating disorder เป็นการสร้างพลังบวกและความสบายใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวผู้มารับบำบัด หากปมบาดแผลทางใจยังติดอยู่ในความทรงจำ ปมประเด็นความไม่สบายใจยังคงติดอยู่ในระบบประสาทและสมองโดยยังไม่ได้รับการจัดการให้หมดไป 



 

FAQ (คำถามท้ายบทความ)
Q1: EMDR ช่วยรักษาโรคการกินผิดปกติได้จริงหรือไม่?
A: EMDR ไม่ได้รักษาให้หายขาด แต่ช่วยเยียวยา Trauma และลดความเชื่อเชิงลบที่กระตุ้นอาการ → ทำให้อาการดีขึ้น

Q2: การทำ EMDR ต้องใช้เวลากี่ครั้ง?
A: โดยทั่วไปผู้ป่วย Eating Disorders อาจต้องทำ 8–12 ครั้ง ขึ้นกับระดับความรุนแรงและ Trauma ที่เกี่ยวข้อง

Q3: EMDR ใช้ร่วมกับการบำบัดอื่นได้หรือไม่?
A: ได้ การใช้ EMDR ร่วมกับ CBT หรือ DBT จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงขึ้น

 


อ้างอิง
https://connect.springerpub.com/content/sgremdr/9/4/188
https://www.sohointegrativeemdr.com/specialties/emdr-for-binge-eating

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้