MDR Therapy (อีเอ็มดีอาร์) คืออะไร? วิธีบำบัดบาดแผลทางใจที่ได้ผลจริง

50888 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MDR Therapy (อีเอ็มดีอาร์) คืออะไร? วิธีบำบัดบาดแผลทางใจที่ได้ผลจริง


 EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing)

หรือ จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์คืออะไร?

วิธีบำบัดบาดแผลทางใจ

ที่ได้ผลจริง?

 

ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา 
Marid Kaewchinda 
(Ph.D)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner

 EMDR Therapy (อีเอ็มดีอาร์) คืออะไร? วิธีบำบัดบาดแผลทางใจที่ได้ผลจริง

 

เมื่อพูดถึง บาดแผลทางใจ (Trauma) หลายคนอาจรู้สึกว่ามันยากที่จะลืม และยังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม หนึ่งในวิธีการบำบัดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกคือ EMDR Therapy (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) หรือการบำบัดด้วยการเคลื่อนไหวตา

บทความนี้จะอธิบายว่า EMDR คืออะไร, ทำงานอย่างไร, ใช้รักษาอะไรได้บ้าง และทำไมถึงได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA)

 

EMDR Therapy คืออะไร?

EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) คือการบำบัดทางจิตวิทยาที่พัฒนาโดย Dr. Francine Shapiro ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 โดยใช้หลักการ Bilateral Stimulation หรือการกระตุ้นสมองซ้าย–ขวา ผ่านการเคลื่อนไหวตา เสียง หรือการแตะ

เป้าหมายคือช่วยให้สมอง ประมวลผลความทรงจำรุนแรง (Trauma) ได้อย่างถูกต้อง ลดความเจ็บปวดและความทุกข์ที่ยังคงอยู่แม้เหตุการณ์จะจบลงแล้ว

เป็นเทคนิคจิตบำบัดที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่ผ่านการเทรนมาอย่างดีใช้ในรักษา บำบัดอาการผิดปกติด้านสุขภาพจิตใจ และบาดแผลทางจิตใจให้กับผู้ป่วย

EMDR Therapy สามารถแก้อาการผิดปกติของผู้ที่ประสบเหตุการณ์สะเทือนใจ มีความเครียดขั้นรุนแรงจนเกิดเป็น PTSD ( Post-Traumatic Stress Disorder) หรือโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ รวมทั้งเทคนิคจิตบำบัดนี้ยังสามารถแก้อาการอื่นทางจิตเวชได้หลากหลายอาการ

ได้แก่

  • อาการวิตกจริต วิตกกังวล Anxiety,
  • หวาดระแวง หวาดกลัว panic attacks,
  • โรคหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง หรือ อาการphobias ต่างๆ
  • ความเจ็บป่วยที่เป็นมานาน Chronic Illness,
  • หรืออาการความเจ็บป่วยที่รักษามายาวนานแต่ไม่หาย และไม่เจอสาเหตุ (medical issues)
  • โรคซึมเศร้า Depression
  • โรคไบโพล่า bipolar disorders
  • โรคตัดขาดสังคม หลีกหนี้ชีวิตความเป็นจริง Dissociative disorders
  • โรคการกินผิดปกติ Eating disorders
  • อาการเศร้าโศรก ทุกข์ระทมจากการสูญเสีย Grief and loss
  • อาการเจ็บปวด Pain
  • โรคกลัวความล้มเหลว Performance anxiety
  • โรคบุคคลิกภาพบกพร่อง Personality disorders
  • บาดแผลทางใจ หรืออาการหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น Post Traumatic Stress Disorder หรือ PTSD
  • และบาดแผลทางใจอื่นที่ยังติดค้างในใจ จนบางครั้งอาจเกิด flashback หรือ มองเห็นภาพเหตุการณ์นั้นโผล่ขึ้นมาอีกทำให้มีอาการฝันผวา ฝันร้ายเวลานอนหลับ
    บาดแผลทางใจจากการถูกข่มขืน ถูกกระทำชำเรา
  • ถูกล่วงละเมิดทางเพศ Sexual assault 
  • หรือมีปัญหาในการนอนหลับ การนอนถูกรบกวน หรืออาการSleep disturbance ต่างๆ
  • อาการหลงผิดไปติดสารเสพติด ยาเสพติด Substance abuse and addiction 
  • รวมทั้งมีอารมณ์และพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว และทำร้ายร่างกายผู้อื่นหรือทำร้ายตนเอง Violence and abuse


 

EMDR ทำงานอย่างไร?

กระบวนการหลัก

  • ผู้เข้ารับการบำบัดจะ นึกถึงเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ
  • นักบำบัดจะใช้การเคลื่อนไหวตา/การกระตุ้นสองข้างของร่างกาย
  • สมองจะค่อย ๆ จัดการกับความทรงจำที่ติดค้าง ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดลดลง

 

ผลลัพธ์ที่มักเกิดขึ้น
  • Flashbacks และฝันร้ายลดลง
  • ความวิตกกังวลและความกลัวลดน้อยลง
  • ผู้รับการบำบัดสามารถ จดจำเหตุการณ์ได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงเหมือนเดิม


จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) มักจะถูกนำมาใช้ในการบำบัดจิตใจจากผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์สะเทือนใจจนเกิดเป็นอาการ Post-traumatic Stress Disorder หรือ PTSD

ประสิทธิภาพของจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)นั้นเป็นที่ยอมรับในวงการทางการแพทย์ว่ามีความก้าวหน้าในการรักษาอาการป่วยทางด้านจิตใจที่ทำงานตรงถึงสมอง และให้ผลเป็นที่ชัดเจนจากหลักฐานที่ปรากฎในฟิมล์เอ็กเรย์ในสมองของผู้ป่วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเข้าใจดีว่าหลังเหตุการณ์สะเทือนใจได้ผ่านไปแล้วมักทิ้งร่องรอยความทรงจำอันเลวร้ายให้กับผู้ประสบเหตุการณ์และสร้างความผิดปกติทางสภาพจิตใจให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะยังไม่แสดงอาการในทันทีแต่อาจใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีจึงเริ่มแสดงผล   และนั้นมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในเวลาต่อมา รวมทั้งเหยื่อจากการกระทำอันรุนแรงหรือผู้ถูกกระทำมักมีความทรงจำอันเลวร้ายตามมา รบกวนจิตใจ หรือตามมาหลอกหลอนจนทำให้เกิดเป็นโรคทางจิตประสาท อาการหลอนและภาวะต่างๆทางจิตที่บางครั้งเหยื่อก็ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ไม่เน้นการพูด เน้นการฝึกเทคนิคต่างๆเพื่อควบคุมความคิด และการทำงานของสมองโดยตรง ดังนั้นเทคนิคต่างๆที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ได้ฝึกให้เราในช่วงแรกๆนั้นจึงสำคัญมากและควรฝึกทำอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้เกิดการทำงานของสมองในการเตรียมการในขั้น reprocess และฟื้นฟูระบบสมองความคิด ความทรงจำ ในหลายกรณีเหยื่อไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่รู้แน่ชัดถึงสิ่งที่มารบกวนการใช้ชีวิต และไม่รู้ที่มาที่ไปว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนใหญ่มักเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กมากๆ อาการผิดปกติหรือความเจ็บปวดที่วนเวียนเกิดขึ้นรบกวนจิตใจซำ้ๆซากๆโดยไม่สามารถหลุดพ้นจากจุดนั้น และมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตให้มีความสุข ดังนั้นเทคนิตจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์จึงเหมาะมากสำหรับการช่วยรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด

 

นักจิตวิทยา และ จิตแพทย์สามารถทำจิตบำบัด EMDR ได้ทุกท่านหรือไม่?

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ได้รับการรับรองมาตรฐานการรักษาทางการแพทย์จาก WHO ( World Health Organization) และเป็นการทำงานที่ลงลึกทางด้านการทำงานของระบบสมองที่ควบคุมอารมณ์และความทรงจำ ดังนั้นจึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจด้านความสัมพันธ์ของความคิดและระบบการทำงานของสมองที่เชื่อมโยงกับผลกระทบด้านจิตใจ และควรต้องได้รับการบริการด้านจิตบำบัดEMDRจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมด้านจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ หรือ EMDR psychotherapy มาโดยเฉพาะเท่านั้น

หากสนใจการรักษาด้วยจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ หรือ EMDR psychotherapy ควรสอบถามนักจิตวิทยาที่ดูแลเคสของเรา หรือสอบถามจิตแพทย์เจ้าของไข้ของเราโดยตรง เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาทุกท่านที่จะสามารถให้บริการด้านจิตบำบัด EMDR 

  

 

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?

เทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ หรือ EMDR Therapy ได้มีการค้นคว้าและเผยแพร่งานวิจัยที่สนับสนุนเทคนิคด้านจิตบำบัดนี้มากมายทางเวปไซต์ สามารถหาอ่านได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

และในส่วนของการฝึกปฎิบัตินั้นเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์นี้ถูกเผยแพร่ และใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยารวมทั้งจิตแพทย์ทั่วโลกทั้งในยุโรปและอเมริกา

ส่วนในเอเชียนั้นถือได้ว่าจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ EMDR Therapy ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสากลแต่อย่างไรก็ดี ผู้ที่จะใช้เทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)นี้ได้ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและได้รับการฝึกด้านจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์(EMDR Therapy) มาอย่างเชี่ยวชาญเนื่องจากมีกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนรวมทั้งเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมองดังนั้นความรู้พื้นฐานด้านจิตวิทยาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอแต่ต้องอาศัยความรู้ด้านการวิเคราะห์อาการของโรคทางจิตเวชที่ส่งกระทบต่อระบบการทำงานของประสาทและสมองด้วย 

ประสิทธิภาพของการทำจิตบำบัด EMDR เป็นอย่างไร?


มีรายงานและผลตอบรับจากผู้รับบริการเองถึงผลลัพธ์ที่ทำให้หลายคนเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของตัวเองอย่างชัดเจน เปลี่ยนชีวิตที่เคยเศร้าโศกมีแต่ความทุกข์ให้สามารถกลับมามีความสุขและความหวังในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง

ประสิทธิภาพในการบำบัดด้านจิตใจด้วยเทคนิคอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) นั้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันเลวร้าย หรือผู้ประสบเหตุการณ์ไม่คาดคิดและตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว

มีผลการสำรวจและเก็บข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริการว่าสามารถช่วยลดอาการภาวะ PTSD หรือความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ80

 
ในหลายประเทศได้นำเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ EMDR Therapy นี้ไปใช้ช่วยเหลือด้านจิตใจให้แก่ผู้ที่ต้องการรักษาบาดแผลด้านจิตใจทั้งที่รุนแรงและที่ไม่รุนแรง

ในวงการจิตวิทยาและสมาคมจิตแพทย์ในต่างประเทศได้ให้การยอมรับเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) กันอย่างกว้างขวางและมีการพิสูจน์มาแล้วว่าประสิทธิของเทคนิคอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) นั้นให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าและได้รับยามาเป็นเวลาหลายสิบปีแต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าและดูเหมือนจะมีอาการแย่ลงเมื่อลองเปลี่ยนมาใช้เทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) กลับสามารถหายจากอาการซึมเศร้าได้ และไม่ต้องกินยาอีกต่อไปได้

มีผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์มากมายที่ตีพิมพ์ไปในหลายประเทศว่าจิตบำบัดด้วยเทคนิคอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)นั้นได้ให้ประโยชน์มากมายโดยเฉพาะอาการบาดแผลทางใจกจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ รวมทั้งบาดแผลทางใจจากการถูกกระทำ การตกเป็นเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดกระทำชำเราหรือเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์ความรุนแรงและทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงด้านจิตใจ

รวมทั้งเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)ยังมีประสิทธิภาพอย่างมากต่อการรักษาโรคซึมเศร้า หรือภาวะซึมเศร้าด้านจิตใจทั้งในวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่หรือแม้กระทั่งในผู้สูงอายุ

 

 

บทพิสูจน์

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ได้ถูกเผยแพร่ถึงประสิทธิภาพที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะเวลาอันสั้นเมื่อเทียบกับการรักษาแบบอื่น

โดยมีหลักฐานการพิสูจน์ยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูด้านจิตใจและกระบวนการที่ทำให้ระบบความทรงจำและการรับรู้ของสมองกลับมาทำงานเป็นปกติโดยสีแดงจากภาพด้านล่างแสดงถึงอาการPTSD ที่ยังติดค้างในสมองจะค่อยๆลดระดับลงเมื่อทำจบกระบวนการทั้ง 8 phrases

ภาพแสดงผลบนฟิล์มเอ็กซ์เรยสมองก่อนและหลังทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)

ในหลายประเทศทางการแพทย์ให้การยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพของเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) จึงทำให้เทคนิคจิตบำบัดเอ็มดีอาร์ EMDR Therapy ได้รับการเผยแพร่ในวงการสมาคมนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาและในยุโรป

รวมทั้งในเอเชียด้วยเพื่อจะได้นำเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์(EMDR Therapy)นี้ไปช่วยเหลือคนไข้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคทางจิตเวชต่างๆและเป็นการรักษาฟื้นฟูสภาวะทางจิตใจอย่างเข้าใจธรรมชาติและการทำงานของระบบประสาทสมองและจิตใจที่สัมพันธ์กันกับร่างกายเพื่อลดอาการเจ็บป่วยด้านร่างกายและความผิดปกติด้านบุคคลิกภาพต่างๆในบรรเทาลงได้


Credit: LFS of Nebraska

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ทำงานอย่างไร?

จากประสบการณ์การใช้เทคนิคจิตบำบัดด้วยอีเอ็มดีอาร์ EMDR Therapy ทำให้นักจิตบำบัด นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาด้านต่างๆเห็นผลถึงประสิทธิภาพและการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผู้เข้ารับบริการอย่างชัดเจนในระยะเวลาอันสั้นและไม่ต้องกลับไปรักษาด้วยยาอีกต่อไป เป็นการรักษาที่รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าการใช้ยาและเป็นกระบวนการฟื้นฟูการทำงานของสมองและความทรงจำตามธรรมชาติ


การบำบัดจิตใจด้วย อีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) มีขบวนการและขั้นตอนที่สามารถช่วยแก้ไขอาการและความทรงจำที่เลวร้ายที่ติดค้างในสมองที่ยังไม่ถูกจัดเก็บให้เป็นระบบระเบียบจึงทำให้เกิดการถูกรบกวนต่อสมองส่งผลด้านจิตใจหลังผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย


ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากระบบความทรงจำในสมองที่ยังไม่ได้ถูกจัดระเบียบอย่างสมบรูณ์นี้ ทำให้เมื่อเราเจอกับสถานการณ์คล้ายคลึงกัน หรือเจอตัวกระตุ้น สมองของเราก็จะกลับไปนึกถึงและเชื่อมโยงกับเรื่องเลวร้ายในอดีตครั้งนั้นอีกครั้ง

นั้นเป็นเพราะประสบการณ์อันเลวร้ายไปทำให้ระบบไหลเวียนความทรงจำในสมองถูกขัดจังหวะ ดังนั้นการใช้เทคนิคอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) เข้าไปจัดการกับระบบความคิด ความทรงจำของสมองที่ถูกแช่แข็ง ช่วยให้เกิดการปลดล็อค ทำให้ความทรงจำในอดีตเกิดการไหลเวียนไม่ติดขัด ทำให้การทำงานด้านข้อมูลของสมองกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ลดสภาวะการถูกรบกวนด้านจิตใจในการดำเนินชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้น

จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) มีทั้งหมด 8 ขั้น (8 Phrases) ดังนี้

Phrase 1:  History-taking
Phase  2: Preparing the client
Phase  3: Assessing the target memory
Phases 4-7: Processing the memory to adaptive resolution
Phase  8: Evaluating treatment results

บางครั้งประสบการณ์อันเลวร้ายต่างๆที่ได้พบเจออาจเป็นเรื่องใหญ่ และสร้างบาดแผลทางใจ ทำให้เกิดความเครียด และมีความคิดที่มีแต่ด้านลบ บางเหตุการณ์อาจทำให้เราซ็อคหรือเจ็บปวด ยากเกินจัดการรักษาฟื้นฟูได้ด้วยตัวเอง

ดังนั้นการมาพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งด้านจิตใจให้เพิ่มขึ้นด้วยการใช้เทคนิคและเพิ่มทักษะความเข้มแข็งให้กับจิตใจจนภายใจจิตใจสามารถต่อสู้และฟื้นคืนกลับมาได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

8 ขั้นตอนเปรียบเสมือนแผนทางการรักษาจิตใจ ในทุกขั้นตอนที่ผู้เชี่ยวชาญให้การบำบัดนั้นเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อให้การทำงานของสมองนั้นได้ถูกกระตุ้นเพื่อเปิดการไหลเวียนของระบบความทรงจำที่ถูกแช่งแข็งมานานและช่วยสร้างระบบความทรงจำใหม่และประสบการณ์ใหม่ที่เป็นบวกให้เพิ่มขึ้นโดยสามารถรับมือกับเหตุการณ์อันเจ็บปวดที่ผ่านมาแล้วได้โดยเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตไม่สามารถมารบกวนจิตใจได้อีกต่อไป

และถึงแม้การบำบัดด้วยอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)จะจบไปแล้วแต่การทำงานของสมองก็ยังทำงานต่อไป การไหลเวียนด้านความทรงจำยังทำงานอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สมองของเราคลายอาการติดขัดจากความจำที่ถูกแช่แข็ง ทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายที่ส่งผลให้เราคิดวนเวียนและเกิดความเจ็บปวดซ้ำๆซากๆได้หายขาด เทคนิคEMDR (อีเอ็มดีอาร์) นี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเจ็บป่วยทางใจแบบได้ผลถาวรและแทบจะไม่มีผลข้างเคียงต่อสมองในการบำบัดรักษาเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยา

 
หลักฐานค้นพบ

จากรายงานการวิจัยของ Scientific American.com  พบว่าจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) สามารถช่วยคนที่มีปัญหาด้านความเครียด วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ไบโพล่าหวาดระแวงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

หรือเหยื่อจากการถูกบูลลี่ หรือถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็ก การถูกทำร้ายร่างกาย และจิตใจที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนั้นอาจทำให้เกิดอาการหวาดระแวง วิตกกังวล ตื่นตระหนกง่ายจนถึงขั้นจิตและประสาทหลอน และอาจรุนแรงถึงขั้นคิดว่าจะมีคนมาทำร้ายหรือไม่ประสงค์ดีกับตนเองอยู่ตลอดเวลาได้ หรือเกิดเป็นโรคแพนิคแอคแทค และจิตหลงผิดได้

ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะสมองเกิดความเครียดรุนแรงไม่ได้รับการแก้ไขและส่งผลต่อเคมีบางชนิดในสมองทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ และเมื่อสมองไม่สามารถแยกแยะเหตุการณ์จริงกับจิตนาการความคิดของตนได้ก็จะส่งผลเสียและแสดงออกทางบุคคลิกภาพที่บกพร่อง ป่วยเป็นโรคทางจิตต่างๆนานา 

จิตบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ได้มีการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถแก้อาการหวาดกลัวในบางสิ่งบางอย่างหรือบาดแผลทางใจที่เกิดจากความหวาดกลัว ประสบเหตุภัยต่างๆ หรือเหตุการฝังใจในบางเรื่องได้ เช่นประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ แผ่นดินถล่ม ซึนามิ เหตุการณ์รุนแรงที่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน หรือ ประสบการณ์อันเลวร้ายอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับตนเองตั้งแต่วัยเด็กแลเะส่งผลต่อการใช้ชีวิตเมื่อโตเป็นวัยผู้ใหญ่ได้

ความคิดที่ไม่ได้รับการแก้ไขเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้คนเราเกิดอาการผิดปกติ หวาดผวา โรคซึมเศร้าความผิดปกติทางจิตหรือ เกิดเป็นโรคจิตเพศ มีรสนิยมทางเพศที่ประหลาด หรือแม้แต่กลายเป็นโรคจิตบางอย่างตามมาได้ เช่น Schizophrenia, eating disorders, phobia, bipolar รวมไปถึงการเกิดโรคมะเร็งที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากความเครียดภายในจิตใจที่ไม่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยเช่นกัน

บทพิสูจน์อีกด้านหนึ่งของงานวิจัยจาก New York Times โดย Wilson Becker and Tinker กล่าวไว้ว่าการบำบัดด้วยจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) สามารถจัดการกับความทรงจำอันเลวร้าย โดยเฉพาะ Post-traumatic Stress Disorder (PTSD) หรือเหตุสะเทือนใจขั้นรุนแรงได้

หลังจากที่พวกเขาได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างผู้เข้าร่วมวิจัยที่เคยผ่านการเป็นทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์สะเทือนใจเมื่อครั้งไปรบในสงคราม เมื่อได้เข้ารับการทำบำบัดพบว่าหลังจากได้รับการบำบัดด้วย อีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)ไปสักระยะหนึ่งก็สามารถจัดการกับความทรงจำอันเลวร้ายที่รบกวนจิตใจได้ 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คนที่ได้รับการบำบัดด้วยอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) นั้นสถิติมากกว่า 90% เป็นเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากได้รับการรักษาด้วยการทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) สามารถหายจากอาการซึมเศร้า สมองได้ถูกปลดล็อกจากอาการความผิดปกติที่รบกวนจิตใจ หวาดผวา และกลับมาดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซนต์โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาไม่ซับซ้อนและ

ในกรณีที่ปัญหามีความซับซ้อนก็สามารถช่วยฟื้นฟูด้านจิตใจให้กลับมาดีได้ผลดีขึ้นถึง 77% หลังจากใช้ EMDR Therapy แบบ50 นาที รวมทั้ง  จิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ ยังได้รับการรับรองด้านประสิทธิภาพจากองค์การอนามัยโลก World Health Organization (WHO) และองค์กรจิตวิทยาและจิตแพทย์ในยุโรป และในระดับนานาชาติสากลอีกด้วย

 


EMDR เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่เคยเผชิญ เหตุการณ์รุนแรง เช่น อุบัติเหตุ, การถูกทำร้าย, ภัยพิบัติ
  • ผู้ที่มี PTSD, Anxiety, Depression
  • ผู้ที่พยายามบำบัดวิธีอื่นแล้วไม่เห็นผลเต็มที่
  • หากไม่แน่ใจว่า EMDR เหมาะกับคุณหรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองทางด้าน EMDR therapy โดยเฉพาะ



 
EMDR ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?

  • PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder)
  • Anxiety Disorders เช่น Panic Disorder, Social Anxiety
  • Depression ที่เกี่ยวข้องกับ Trauma
  • Phobias หรือความกลัวเฉพาะสิ่ง
  • Grief & Loss (การสูญเสียคนรัก)

อ่านเพิ่มเติม: การบำบัดสำหรับ PTSD click

นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกหลายท่านรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดหลังใช้การบำบัดด้วยเทคนิคอีเอ็มดีอาร์ (EMDR) และสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ผู้มารับบริการมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น และมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางบวกมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

ช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ เช่นอาการแพนิค หวาดระแวง หวาดกลัว วิตกกังวล เครียดสะสม อาการซึมเศร้า ฝันผวา Sleeping disorde ทำให้อาการเหล่านี้ลดลงและไม่เป็นปัญหาที่สร้างอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อีกต่อไป

การใช้เทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ช่วยให้ชีวิตกลับมามีความสุขอีกครั้ง

ข้อดีของการทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ที่แตกต่างจากการทำ traditional talk therapy ดังนี้

1. สมองมีการเรียงลำดับความคิด

เทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ช่วยให้เรารู้สึกถึงความทรงจำของเหตุการณ์อันเลวร้ายได้ถูกจัดระเบียบในสมอง รู้สึกเข้าใจ และชัดเจนขึ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีกระบวนการในการทำความเข้าใจเพื่อให้รู้สึกว่าเหตุการณ์เหล่านั้นไม่สามารถมามีอิทธิพล หรือสามารถมารบกวนการใช้ชีวิตของเราได้อีกต่อไป

2. ทำให้รู้จักปล่อยวาง

ขั้นตอนของจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) ช่วยให้เรามีการใช้ความคิดในการพิจรณาและมีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้สมองได้กลับไปปลดล็อคความทรงจำทำให้ความคิดมีความลื่นไหลทำให้เรารู้สึกคลายความหนักใจ ทุกข์ใจ และสามารถใช้ชีวิตอย่างเข้าใจแบบคนที่มองปัญหาอยู่ห่างๆ

3. ช่วยเรื่องความคิดลบ

มีการปรับภาวะด้านอารมณ์ และความมั่นใจ เหตุการณ์เลวร้ายที่ยังฝังลึกในใจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ย่อมล้วนแต่ส่งผลร้ายต่อการดำเนินชีวิตของคนเราได้ทั้งนั้น ความคิดด้านลบจากเหตุการณ์อันเลวร้ายล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และคนในครอบครัว บ่อยครั้งทำให้เกิดความขัดแย้ง และตัดขาดการเชื่อมโยงกับสิ่งที่สำคัญในชีวิต ทำให้อยากหลีกหนีหรือแยกตัวออกห่างจากสังคม

การได้จัดการกับความทรงจำอันเลวร้ายเป็นการรักษาความเชื่อมั่นจากภายในที่ถูกกระทบกระเทือนจากประสบการณ์อันเลวร้ายในชีวิตภายนอก ช่วยในการมองภาพตัวเองและมีการเชื่อมโยงกับพฤติกรรมที่ตนเคยเลือกกระทำที่เป็นผลมีจากความทรงจำด้านลบ ทำให้เกิดการมองเห็นที่จะเปลี่ยนแปลงในการปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นให้ดีขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy) สามารถช่วยพัฒนาในเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง และทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรค์ได้อย่างมีสติ รู้หลักการขั้นตอนและมีความเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังจะเข้ามาจากเหตุการณ์ที่เรามีประสบการณ์ในชีวิต และทำให้เราสามารถพัฒนาความคิดให้เติบโตและแข็งแกร่งจากเหตุการณ์ในอดีตขึ้นได้


รู้ได้อย่างไรว่าเราพร้อมสำหรับการทำอีเอ็มดีอาร์ (EMDR) หรือไม่?
 
การทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ ( EMDR Therapy) จะโฟกัสตรงไปที่การบำบัดด้านอารมณ์ ความนึกคิด และปฎิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์สะเทือนจิตใจที่เกิดขึ้นหรือบาดแผลทางใจที่รุนแรงที่มีผลต่อการทำงานของสมองเป็นหลัก ด้วยเทคนิคจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ (EMDR Therapy)นี้จะไปทำงานกับสมองส่วนในเรื่องการจัดการกับความทรงจำที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ ทำให้เกิดการไหลเวียนของความทรงจำในสมองที่มีการจัดเก็บไม่สมบรูณ์ การที่เราพยายามไปลบความทรงจำ การพยายามทำให้ลืมจึงเป็นการแก้ไขไม่ถูกวิธี เพราะเป็นการไปบิดเบือนสมอง การเก็บซ่อนความรู้สึกยิ่งส่งผลต่อด้านความกดดันและไม่สามารถแสดงออกทางจิตใจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา 

การทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์ในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นบ้างเช่นปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือ ฝันร้าย มักเป็นผลมาจากการทำงานของสมองที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย 
ดังนั้นควรพูดคุยกับนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญให้เข้าใจถึงหลักการและขั้นตอน กระบวนการก่อนการเริ่มทำจิตบำบัดอีเอ็มดีอาร์(EMDR Therapy)ให้เข้าใจกระบวนการบำบัดอย่างถ่องแท้ก่อนเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพของการรักษา 

หัวใจของการทำการจิตบำบัดด้วย EMDR Therapy (อีเอ็มดีอาร์) คือช่วยให้เราหายจากอาการป่วยที่เกิดจากสภาพจิตใจหรือบาดแผลในใจที่ยังไม่รับการรักษาเยียวยา
อย่างไรก็ดีระยะเวลาในการฟื้นคืนของสภาพจิตใจในแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความซับซ้อนของปัญหาในแต่ละคน

 

EMDR ได้ผลจริงไหม?

  • มีงานวิจัยมากกว่า 30 ปี ที่ยืนยันว่า EMDR มีประสิทธิภาพ
  • ได้รับการแนะนำโดย องค์การอนามัยโลก (WHO) และ สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA)
  • หลายงานวิจัยพบว่า ผู้ป่วย PTSD ที่ทำ EMDR เพียง 6–12 ครั้ง อาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


ข้อดีของ EMDR Therapy

  • ไม่จำเป็นต้องเล่าเหตุการณ์ซ้ำ ๆ เหมือน Talk Therapy แบบดั้งเดิม
  • ใช้เวลาไม่นานเมื่อเทียบกับการบำบัดอื่น ๆ
  • เห็นผลในกลุ่มผู้ที่มี Trauma เดี่ยว (Single-event trauma) ได้ค่อนข้างเร็ว



สรุป
EMDR Therapy เป็นการบำบัดทางจิตที่มีหลักฐานวิจัยรองรับ ได้ผลจริงในการรักษา PTSD, Anxiety, Depression และ Trauma-related disorders และเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังต่อสู้กับบาดแผลทางใจ EMDR อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้ชีวิตกลับมาสมดุลอีกครั้ง


Q1: EMDR ใช้เวลากี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A:โดยทั่วไป 6–12 ครั้งจะเริ่มเห็นผล แต่บางคนอาจต้องมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของ Trauma

Q2: EMDR ปลอดภัยไหม?

A: ปลอดภัยหากทำกับนักบำบัดที่ผ่านการรับรอง แต่ผู้รับการบำบัดควรเตรียมใจว่าระหว่างกระบวนการอาจรู้สึกถึงอารมณ์เก่า ๆ กลับมาได้

Q3:  EMDR ต่างจาก Talk Therapy อย่างไร?
A:  EMDR ไม่เน้นการเล่าเรื่องซ้ำ ๆ แต่ใช้การกระตุ้นสมองซ้าย–ขวา ช่วยให้สมองประมวลผลความทรงจำที่เจ็บปวดได้ดีขึ้น


อ้างอิง

           1. Greenwoodcounselingcenter.com

           2. Healthline.com
           3. New York Times
           4. Center for Discovery Eating Disorder Treatment
           5. https://ipseitycounselingclinic.com/2019/12/03/is-emdr-therapy-right-for-me/
           6. www.facebook.com/bettermindthailand
           7. https://www.bettermindthailand.com/
           8. https://www.goodtherapy.org/learn-about-therapy/types/eye-movement-desensitization-and-reprocessing
           9. https://www.apa.org/ptsd-guideline/treatments/eye-movement-  reprocessing 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้