ทำไมพี่น้องแข่งขันและอิจฉากัน (Sibling rivalry)

9 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมพี่น้องแข่งขันและอิจฉากัน (Sibling rivalry)

ทำไมพี่น้องแข่งขันและอิจฉากัน

(Sibling rivalry)


ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner
 

การแข่งขันและอิจฉาระหว่างพี่น้อง (Sibling rivalry) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความต้องการได้รับความรัก ความสนใจ และการยอมรับจากพ่อแม่ รวมถึงความแตกต่างในความสามารถ ทรัพยากร และบทบาทในครอบครัว

ตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้เกิด Sibling rivalry ได้แก่:

  • ความต้องการความสนใจจากพ่อแม่:
พี่น้องอาจรู้สึกว่าต้องแย่งชิงความสนใจจากพ่อแม่ ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกอิจฉาหรือการแข่งขันกัน

  • ความแตกต่างในความสามารถ:

เมื่อพี่น้องมีความสามารถหรือความสำเร็จต่างกัน อาจทำให้เกิดความรู้สึกอิจฉาหรือต้องการตามให้เท่าเทียม

  • การเปรียบเทียบ:
การที่พ่อแม่เปรียบเทียบลูกแต่ละคน อาจทำให้พี่น้องรู้สึกด้อยค่า หรืออยากพิสูจน์ตัวเองว่าตนเองเก่งกว่าหรือดีเท่ากับคนอื่น

  • ความเครียดในครอบครัว:
ปัจจัยด้านความเครียด เช่น ความไม่มั่นคงทางการเงิน หรือปัญหาสุขภาพในครอบครัว อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องตึงเครียดขึ้น

  • ธรรมชาติของการพัฒนา:

การแข่งขันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในวัยเด็ก ซึ่งช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ว่าทำอย่างไรให้ได้รับการยอมรับในกลุ่ม


การเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ปกครองและพี่น้องมีความเข้าใจและจัดการกับ Sibling rivalry นี้ได้อย่างเหมาะสม โดยส่งเสริมความรัก ความเข้าใจ และสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

 


Sibling rivalry ในวัยผู้ใหญ่เกิดจากสาเหตุใด และควรแก้ไขอย่างไร?

Sibling rivalry ในวัยผู้ใหญ่มักเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างจากวัยเด็ก ซึ่งอาจรวมถึงปัจจัยดังนี้:

สาเหตุของ sibling rivalry ในวัยผู้ใหญ่

  • ความแตกต่างในความสำเร็จหรือบทบาทชีวิต
เมื่อพี่น้องมีความก้าวหน้าในชีวิต เช่น การงาน ครอบครัว หรือความมั่นคงทางการเงิน แล้วรู้สึกว่าถูกเปรียบเทียบหรือไม่ได้รับการยอมรับเท่าเทียมกัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจหรืออิจฉากันได้

  • ปัญหาทางอำนาจหรือการควบคุมในครอบครัว
เช่น ความไม่เท่าเทียมในด้านอิทธิพลหรือการตัดสินใจในครอบครัว การมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่ความไม่พอใจหรือความขัดแย้ง

  • ความไม่เข้าใจหรือความผิดหวังในอดีต
ความสัมพันธ์ที่ยังติดค้างหรือไม่ได้รับการแก้ไขในอดีต เช่น ความรู้สึกไม่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน หรือความผิดหวังในความพยายามของกันและกัน

  • เรื่องทรัพย์สินหรือมรดก
การแบ่งปันทรัพย์สิน เช่น มรดก ที่ดิน หรือสิ่งของมีค่า อาจสร้างความขัดแย้งและความไม่พอใจระหว่างพี่น้อง
  • ความรู้สึกไม่เท่าเทียมกันในความรักของพ่อแม่

บางกรณี ความรู้สึกว่าได้รับความรักหรือความสนใจไม่เท่าเทียมกันเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจและขัดแย้ง



แนวทางแก้ไข Sibling rivalry ในผู้ใหญ'

1. ปิดใจพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา


การสื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์ช่วยลดความเข้าใจผิด และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน

2. ยอมรับความแตกต่างและเคารพในสิทธิ์ของกันและกัน ควรเคารพสิทธิ์และความแตกต่างของแต่ละคน โดยไม่เปรียบเทียบหรือคาดหวังมากเกินไป


3. ตั้งขอบเขตและปฏิบัติตนอย่างเป็นธรรม

รักษาความเป็นธรรมในเรื่องทรัพย์สิน ความสนใจ และการแบ่งเวลาให้กัน

4. แก้ไขอดีตและปล่อยวางความผิดหวัง

พยายามให้อภัยและปล่อยวางความผิดหวังในอดีต เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในอนาคต

5. หาแนวทางสร้างความสัมพันธ์ใหม่

เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกัน เช่น การพบปะ พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและลดความขัดแย้ง

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องในวัยผู้ใหญ่มักซับซ้อน แต่ด้วยความเข้าใจและการสื่อสารอย่างเปิดเผย จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้





อะไรคือเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ในเชิงจิตวิทยาของ Sibling rivalry

เบื้องหลังทางจิตวิทยาของความแข่งขันและอิจฉาระหว่างพี่น้อง คือกลไกและปัจจัยทางจิตวิทยาที่ทำให้เกิดความขัดแย้งนี้ ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:

  • ความต้องการความรักและการยอมรับ
เด็กหรือวัยรุ่นมีความต้องการได้รับความสนใจและความรักจากพ่อแม่เป็นอย่างมาก เมื่อรู้สึกว่าถูกเปรียบเทียบ หรือไม่ได้รับความสนใจเท่ากัน ก็อาจเกิดความรู้สึกอิจฉาและต้องการแย่งชิงความสนใจนั้น

  • การเปรียบเทียบและความรู้สึกด้อยค่า
พี่น้องอาจเปรียบเทียบกันในด้านความสามารถ หรือความสำเร็จ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกด้อยค่าและสร้างความแข็งแกร่งในตัวเองด้วยการพยายามดีดตัว หรือสร้างความขัดแย้งกับพี่น้อง
  • ความรู้สึกเป็น 'คู่แข่ง' ของตัวเอง
ครอบครัวเป็นสนามที่เด็กๆ เรียนรู้การเปรียบเทียบและแข่งขันกันเพื่อทดสอบความสามารถของตนเอง การแข่งขันนี้เป็นกลไกทางจิตวิทยาเพื่อสร้างความมั่นใจและยืนยันความเป็นตัวตน
  • ความกลัวในเรื่องความปลอดภัยและสถานะในครอบครัว
เมื่อมีการเพิ่มสมาชิกใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว เช่น การหย่าร้าง หรือย้ายบ้าน เด็กอาจรู้สึกไม่มั่นคง และแสดงออกด้วยความขัดแย้งเพื่อเรียกร้องความสนใจ
  • ลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพ

บุคลิกภาพของแต่ละคน เช่น ความหุนหันพลันแล่น ความอ่อนไหว หรือความคิดต้องการควบคุม อาจเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิด Sibling rivalry ได้ง่ายขึ้น

โดยรวมแล้ว เบื้องหลังทางจิตวิทยาของ Sibling rivalry มักมาจากความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในการได้รับความรักและความยอมรับ การเปรียบเทียบในครอบครัวเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกด้อยค่าและแข่งขันกันเพื่อเป็นที่สนใจและได้รับการยอมรับจากพ่อแม่หรือคนรอบตัว




พ่อแม่มีอิทธิพลอย่างไรต่อการเกิด Sibling rivalry

พ่อแม่มีอิทธิพลค่อนข้างมากต่อการเกิดและพัฒนาของ "ความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง (Sibling Rivalry)" ทั้งในแง่ของการกระตุ้นให้เกิดขึ้นและการจัดการกับปัญหา อิทธิพลที่สำคัญเช่น:

1. การประเมินและเปรียบเทียบ (Comparison and Favoritism):

การที่พ่อแม่เปรียบเทียบบุตรหลานกันทั้งทางตรงและทางอ้อม สามารถสร้างความรู้สึกท้อแท้ อิจฉา และต้องการที่จะแข่งขันเพื่อได้รับการมองเห็นหรือการประเมินคะแนนที่ดีกว่าจากพ่อแม่
การแสดงออกในรูปแบบที่น้องได้รับความสนใจมากกว่าพี่  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยนั้น สามารถสร้างความรู้สึกไม่ดีและความขัดแย้งระหว่างพี่น้องได้

2. การให้ความสนใจ การดูแล และการจัดหาทรัพยากร (Allocation of Attention, Care, and Resources):


การที่บุตรหลานคนหนึ่งรู้สึกว่าได้รับความสนใจหรือทรัพยากร (เช่น เงิน ของขวัญ โอกาส) น้อยกว่าคนอื่น จะทำให้เกิดความรู้สึกขาดความสนใจและพยายามแสดงตัวเองให้ดูดีขึ้นบ่อยครั้งอาจพยายามเอาชนะด้วยการแข่งขันหรือทำร้ายผู้อื่น

การที่พ่อแม่ให้ความสนใจแตกต่างกันในการเลี้ยงดูลูกแต่ละคน (เช่น ดูแลด้านความเป็นอยู่ที่แตกต่าง  เข้มงวดกับระดับความสำเร็จที่แตกต่าง) สามารถเป็นตัวกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างพี่น้องได้

3. รูปแบบการดูแลและการเรียกร้อง (Parenting Styles and Demands):

การเรียกร้องมากเกินไปของพ่อแม่ หรือตั้งเป้าหมายสูงเกินเป็นไปได้ รวมทั้งมีความคาดหวังที่แตกต่างกันระหว่างพี่น้อง สามารถสร้างความกดดันและความไม่เป็นธรรมที่นำสู่ความขัดแย้งได้

การดูแลแบบเคร่งครัดเกินไปหรืออนุรักษ์นิยม อาจเป็นอุปสรรคในการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาที่ส่งผลต่อความรับผิดชอบต่อตนเองของลูก ทำให้ต้องพึ่งพาการแข่งขันหรือความขัดแย้งเพื่อหาการยอมรับ

4. การจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management):

วิธีที่พ่อแม่เข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพี่น้องมีความสำคัญมาก การแก้ปัญหาด้วยการให้ใครบางคนเป็นผู้รับผิดโดยไม่สืบสวน หรือการจบปัญหาแบบแยกย้ายโดยไม่แก้ไขปัญหาเลย จะส่งเสริมให้ความขัดแย้งให้ดำเนินต่อไปและมักเกิดขึ้นซ้ำอีก การสอนทักษะการแก้ปัญหา การเจรจา และการแบ่งปัน จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

5. การแสดงออกทางอ้อม (Implicit Messages):

ความคิดเห็นหรือการพูดคุยที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการแข่งขันหรือความเป็นพี่น้อง (เช่น "แต่ละคนต้องแข่งกันดีขึ้น") เป็นการส่งสัญญาณและกระตุ้นพฤติกรรมให้เกิดการแข่งขันกับระหว่างพี่น้อง

6. การเลี้ยงดูแบบเป็นกลาง (Fairness Perception):

แม้ว่าการดูแลแต่ละคนจะต้องมีความเหมาะสมตามความต้องการและลักษณะเฉพาะ แต่การที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อบุตรหลานแต่ละคนด้วยความยุติธรรม (fairness) ในมุมมองของเด็ก ย้ำว่าเป็นการรับรู้ของเด็ก จะช่วยลดความขัดแย้งได้มาก

ในความเป็นจริงแล้ว ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องบางส่วนอาจเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตที่ปกติ แต่การปฏิบัติของพ่อแม่สามารถทำให้มันรุนแรงขึ้น หรือช่วยให้ลดลงได้ และใช้การสอนทักษะการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปได้ ความสำคัญอยู่ที่ความเข้าใจและการจัดการโดยพ่อแม่ในแนวทางที่สร้างสรรค์และยุติธรรม




เมื่อถูกเปรียบเทียบและถูกปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากพ่อแม่ ควรทำอย่างไร

การถูกเปรียบเทียบและปฏิบัติไม่เป็นธรรมจากพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกเสียใจ รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง และอาจทำให้เกิดความเครียด หรือความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามเราควรทำบางสิ่งเพื่อเป็นการปกป้องจิตใจตัวเอง

การรับรู้และยอมรับอารมณ์ของตัวเอง

อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านี้ (เช่น โกรธเคือง  อิจฉา  ไม่มีคุณค่า) มาทำร้ายจิตใจ อารมณ์เหล่านี้มักถูกซ่อนอยู่ การยอมรับและรับรู้ว่าคุณมีความรู้สึกไม่ดี เพราะถูกเปรียบเทียบหรือปฏิบัติไม่เป็นธรรม เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด

2. การสื่อสาร (Communicate, if possible and safe)

ใช้การสื่อสารในโอกาสที่เหมาะและปลอดภัย ควรพูดกับพ่อแม่เกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ ใช้โทนเสียงที่เหมาะสมในแนวทางที่ไม่โจมตี เช่น "คุณรู้สึกเสียใจที่ถูกเปรียบเทียบกับคนอื่น มันทำให้คุณรู้สึกไม่ดี" หรือ "คุณรู้สึกไม่โอเคกับการกระทำของพ่อแม่"

อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าการพูดออกไปไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่จะเปลี่ยนได้ทันที แต่มันเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกของคุณและเป็นโอกาสสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจ แม้ว่าจะไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดเลยก็ตาม

3. ตั้งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของพ่อแม่

จินตนาการให้พ่อแม่ของคุณเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับการแนะนำถึงวิธีการที่ดีที่สุดในการเป็นพ่อแม่ หรืออาจมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้พวกเขามีพฤติกรรมแบบนี้ (แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่ยอมรับ) การทำเช่นนี้อาจช่วยลดความโกรธเคืองบ้าง แต่อย่าใช้เป็นข้ออ้างที่จะให้พวกเขาทำต่อไปได้

4. กำหนดขอบเขต (Set Boundaries)

หากการเปรียบเทียบหรือการปฏิบัติไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกแย่บ่อยครั้ง คุณอาจต้องกำหนดขอบเขตกับพวกเขา เช่น:

  • หลีกเลี่ยงการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี
  • ลดเวลาในการเข้ามาเยี่ยมหรือติดต่อ หากมันทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย
  • การปกป้องตัวเอง (Self-protect) ไม่ให้ถูกทำร้ายอารมณ์ได้
  • ดูแลจิตใจตัวเองและสร้างค่านิยมของคุณเอง ความสุข หรือค่าของคุณไม่ควรขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบจากพ่อแม่หรือคนอื่น
  • มองหาและชื่นชมความก้าวหน้าของคุณจากการพัฒนาตัวเอง ด้วยการศึกษาเล่าเรียน การทำงาน หรือความสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
  • มองเห็นและดีใจในความสามารถและความพยายามของคุณเองที่คุณทำมันสำเร็จ
  • ให้ความสำคัญกับคนที่สนับสนุนคุณ  มีสัมพันธภาพอันดีกับคุณ เช่น เพื่อน คู่หู ญาติ
  • ค้นหาการสนับสนุนจากภายนอก



หากคุณรู้สึกท้อถอย โดยเฉพาะหากคุณยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่น การพูดกับผู้ใหญ่ที่คุณไว้วางใจ (เช่น ครู พี่เลี้ยง พี่ชาย/น้องสาว หรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพอื่น ๆ) สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและได้รับมองเห็นถึงคุณค่าของตัวเองได้

หากเป็นไปได้ หาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: หากความรู้สึกนี้ยังคงปรากฏอยู่แม้ว่าคุณจะโตแล้ว หรือมีผลกระทบต่อชีวิตของคุณอย่างมาก การพูดกับนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยคุณในการทำความเข้าใจกับปัญหาเหล่านี้ และรับมือกับผลกระทบที่ยังคงอยู่ได้

สำคัญที่สุดคือ การรับรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเลวหรือมีความผิด แต่เป็นพ่อแม่ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือขาดทักษะความรู้ทางด้านการเป็นพ่อแม่ การดูแลตัวเองและสร้างค่านิยมของคุณเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินหน้าต่อไป

 

อ้างอิง

https://www.ebsco.com/research-starters/psychology/sibling-rivalry#:~:text=Factors%20such%20as%20age%2C%20birth,can%20exacerbate%20feelings%20of%20jealousy

https://www.sedonasky.org/blog/the-psychology-behind-sibling-rivalry

 







Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้