Narcissistic gaslighting คืออะไร?

475 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Narcissistic gaslighting คืออะไร?

Narcissistic gaslighting คืออะไร?

ทำความเข้าใจระหว่าง Narcissistic และ Gaslighting

Narcissistic หรือ Narcissistic Personality Disorder (NPD) รู้จักกันในอาการของโรคหลงตัวเอง

NPD เป็นความผิดปกติด้านบุคลิกภาพ มักแสดงออกด้วยการให้ความสำคัญกับตนเองเป็นหลัก ต้องการความชื่นชมยกย่อม ยอมรับจากผู้อื่นหรือต้องการความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ไม่แคร์หรือเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีความมั่นใจสูงและรับไม่ได้กับคำวิพากวิจารณ์ใดๆ

ส่วน Gaslighting เป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติในบุคคลที่ต้องการควบคุมจิตใจผู้อื่น อาจใช้เทคนิคการทำซ้ำ สร้างเรื่องสถานการณ์เพื่อให้เหยื่อเกิดความเชื่อ เพื่อเปลี่ยนการรับรู้ว่าสิ่งที่เตรียมการไว้เหล่านั้นคือเรื่องจริง พฤติกรรม Gaslighting ส่วนใหญ่มักกระทำโดยคนที่มีภาวะ NPD เพื่อต้องการควบคุม และมีอำนาจเหนือผู้อื่น

เราไม่สามารถเหมารวมได้ว่าคนที่เป็น NPD ทุกคนจะมีพฤติกรรม Gaslighting เช่นเดียวกันกับคนที่มีพฤติกรรม Gaslighting ทุกคนอาจไม่ถูกระบุว่าเป็นคนที่มีบุคลิกภาพบกพร่องอย่าง NPD ก็ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเกิดเกิดพฤติกรรม Gaslighting ในสัมพันธภาพนับว่านั่นเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดี หรือเป็นพิษ และบางครั้งอาจถึงขั้นต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในการออกจากสถานการณ์ดังกล่าว

การตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่แสดงพฤติกรรม Gaslighting อาจสร้างประสบการณ์ด้านลบในหลายด้าน โดยรวมที่เห็นชัดคือผู้ถูกกระทำอาจเกิดความสงสัยหรือมีคำถามในใจเกี่ยวกับความคิดของตัวเอง มีความระแวงในความเชื่อมั่นและความสามารถของตัวเอง

ส่งผลต่อความมั่นใจ และในที่สุดอาจหลงเชื่อคิดไปจริงๆ ว่าตัวเองกำลังป่วยทางจิตอยู่ และอาจมีความคิดว่า ความคิดการตัดสินใจของตนเองนั้นพึ่งพาไม่ได้ และอาจต้องอาศัยผู้อื่นมาช่วยเป็นผู้ชี้นำชีวิตของตนเองแทน


ลักษณะบุคลิกภาพของคนที่เป็น Narcissist  เป็นอย่างไร?

Narcissistic มักมีลักษณะอย่างน้อย 5 ประเด็นตามรายการด้านล่าง

1.  หมกมุ่น

คลั่งไคล้ในอำนาจ และความสำเร็จ ความเป็นอัจฉริยะ หรือบางคนคลั่งไคล้ในความรัก

2.  มีความหยิ่งพยอง 

ในความสำคัญของตัวเอง เช่น ความสำเร็จของตัวเอง คาดหวังการว่าผู้อื่นต้องให้ความสำคัญ ชื่นชมโดยไม่มีที่ติ หรือมีใครอื่นมาเทียบได้

3. ต้องการการยอมรับ

และชื่นชมอย่างล้นหลามเกินจริง

4. ไม่ใส่ใจความรู้สึกผู้อื่น

ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใส่ใจต้องการหรือความจำเป็นของผู้อื่น

5. มีความเชื่อว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ

และต้องการอยู่ในสังคมที่มีอภิสิทธิชนพิเศษเท่านั้น

6. ขี้อิจฉา

ไม่ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่นและมักคิดว่าผู้อื่นอิจฉาตน

7. ชอบแสดงพฤติกรรมว่าตนเองดีกว่า

เหนือกว่าผู้อื่น และมีทัศนคติดูถูก พูดจาดูหมิ่นผู้อื่น

8.   ต้องการสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นอยู่ตลอดเวลา

คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของโลกใบนี้ และความคาดหวังการตอบสนองด้านความพึงพอใจที่เกินความเป็นจริง ไม่สมเหตุสมผล

9.  มักถือเอาประโยชน์และความสำเร็จของผู้อื่นมาเป็นของตน

เอาเปรียบผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองไปสู่ความสำเร็จ

 



พฤติกรรม Gaslighting เป็นอย่างไร?

Gaslighting เป็นการใช้ Psychological manipulation

เป็นการควบคุมความคิดจิตใจคนอื่น gaslighting จะทำให้เหยื่อเกิดความระแวงสงสัยในตัวเอง ทำให้เหยื่อรู้สึกเหมือนตนเองขาดความสามารถด้านความคิด อาจสร้างเรื่องให้เหมือนว่าความทรงจำของเหยื่อผิดเพี้ยน รู้สึกสับสน ไม่แน่ใจ เป็นการกระทำโดยตั้งใจและจงใจจากอีกฝ่าย โดยมีการวางแผนเพื่อให้เหยื่อเกิดความสับสนในความคิด และไม่สามารถเชื่อใจในความคิดของตนเองได้

ประสบการณ์ Gaslighting หากโดนกระทำเป็นระยะเวลายาวนานจะทำให้เกิดความอ่อนแอด้านจิตใจ จนอาจเกิดเป็นโรควิตกกังวล ซึมเศร้า และมีปัญหาด้านความเชื่อมั่นตก จนรู้สึกว่าไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ และก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ Gaslighter ต้องการนั่นคือการควบคุม ชี้นำ ทำให้เหยื่ออยู่ภาวะต้องพึ่งพิง และรู้สึกเหมือนไม่สามารถทำอะไรด้วยตัวเอง ทำให้เหยื่อขาดความเชื่อมั่นและมักทำการแยกตัวเหยื่อออกจากสังคมครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่เหยื่อรู้จักเพื่อตัดการเชื่อมต่อจากภายนอก
พฤติกรรม Gaslighting เป็นการทำร้ายจิตใจแบบค่อยเป็นค่อยไป บ่อยครั้งไม่แสดงออกอย่างชัดเจนจนเหยื่ออาจไม่ฉุกคิดหรือได้ทันรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรม Gaslighting




เอาตัวรอดอย่างไรหากกำลังถูก Gaslighting?

Gaslighting เป็นรูปแบบของการทำร้ายด้านจิตใจ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นกับชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว เพื่อนฝูง เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงาน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกสับสนและเคลือบแคลงสงสัยในตัวเองและสิ่งที่เรารับรู้ รวมทั้งความเชื่อที่เคยมี

หากเกิดความสงสังว่าเรื่องนี้จริงหรือเปล่า ถูกต้องหรือไม่ หากมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจให้สงสัยว่าเราอาจจะถูก Gaslighting อยู่ก็ได้ คำถามง่ายๆ เช่น

  • เราเป็นกังวลกับสิ่งนี้เกินกว่าเหตุไปไหม?
  • สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าหรือฉันคิดไปเอง
  • ทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยกับการเปิดใจจังเลยหรือฉันไม่รู้จักตัวฉันเอง

หากเกิดคำถามลักษณะนี้ขึ้นภายในใจ ให้สงสัยไว้ว่าคุณอาจตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรม Gaslighting นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ Mark Travers จาก The World of Psychology ให้คำแนะนำในการเอาตัวรอดไว้ดังนี้

 3 วิธีเอาตัวรอดจากgaslighting

1. สังเกตสัญญาณเตือนต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ

พฤติกรรมของ Gaslighter ที่มักเกิดขึ้นมักมีสัญญาณต่างๆที่เราควรใส่ใจเป็นพิเศษดังนี้
  • ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น เช่น ชอบบอกเราว่า คุณนะคิดไปเอง คุณเป็นคนอ่อนไหวเกินไป
  • ไม่ให้คุณค่ากับคนอื่น เช่น ชอบบอกเราว่า คุณนะมันโง่ คุณมันไม่เข้าใจอะไรซะเลย
  • ปฎิเสธความจริง เช่น อาจบอกเราว่า คุณแน่ใจนะว่ามันเกิดขึ้นจริง คุณน่าจะจำผิดแล้ว
  • โทษคนอื่นในความผิดของตนเอง เช่น ชอบบอกเราว่า คุณไม่ต้องเสียใจไปหรอกผมจะไม่โกรธคุณในเรื่องนี้หรอก


เนื่องด้วย Gaslighter มักขาดการตระหนักรู้ในสิ่งที่ตนเองทำลงไปและมักไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น หรือไม่แม้รู้ตัวว่ากำลังคุกคาม และกำลังควบคุมผู้อื่นอยู่   

ส่วนใหญ่พฤติกรรมเหล่านี้มักเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาในวัยเด็กด้านความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามหาก Gaslighting เกิดในสัมพันธภาพระหว่างคู่ชีวิตหรือชีวิตคู่ ควรรีบแก้ไขโดยด่วนและไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือทำเฉยเพราะจะเป็นการเสริมพลังงานด้านลบให้เพิ่มมากขึ้นในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

2.  สื่อสาร และลงมือปฏิบัติการ

เมื่อเราตระหนักถึงพฤติกรรมที่เป็นการทำร้ายจิตใจเราแล้ว เราควรมีการสื่อสารคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ถึงผลกระทบของคู่ชีวิตที่เกิดขึ้นกับเรา หากเราเงียบไม่สื่อสารจะเป็นการสร้างเสริมแรงกระทำด้านลบต่อพฤติกรรมเหล่านั้นให้มีมากขึ้น

วิธีสื่อสารเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพกับคู่ชีวิตที่มีพฤติกรรม Gaslighting อาจทำได้ดังนี้
         

  • เมื่อคู่ชีวิตพยายามบอกว่าคุณโกหกในสิ่งที่คุณไม่ได้โกหก คุณอาจบอกเขาไปว่า เราทั้งคู่อาจจำสับสนกันและเข้าใจไปคนละเรื่องดังนั้นหยุดการโด้เถียงในเรื่องนี้กันจะดีกว่า
  • เมื่อคู่ของคุณคอยบอกคุณว่าคุณควรรู้สึกแบบนั้นแบบนี้ หรือไม่ควรรู้สึกอะไรแบบไหน คุณควรตอบไปว่า คุณเข้าใจว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นอย่างไร และความรู้สึกของคุณเป็นเช่นไรและ มันไม่มีผิดถูกและคู่ของคุณควรเคารพในความรู้สึกที่คุณกำลังเป็นอยู่
  • เมื่อคู่ของคุณพยายามดึงคุณเข้าสู่การสนทนาที่หาคำตอบไม่ได้ เป็นเรื่องเดิมๆที่จบไปแล้วคุณอาจจะบอกไปว่า คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้และขอเอาไว้ค่อยพูดกันใหม่เมื่อเราทั้งคู่มีความชัดเจนมากขึ้นกว่านี้



เนื่องจาก  Gaslighter มักจะไม่รู้ตัวถึงพฤติกรรมที่เป็นพิษของตนเองดังนั้นการสื่อสารออกไปเพื่อทำให้เขาได้ตระหนักถึงพฤติกรรมที่เขาทำจะสามารถช่วยให้เขาตระหนักรู้ได้บ้าง

อย่างไรก็ตามควรพาไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเพื่อช่วยให้การรับมือในปัญหาความสัมพันธ์ลักษณะนี้  ยิ่งเร็วยิ่งดีและหากอีกฝ่ายเห็นคุณค่าและต้องการรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ก็จะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในเชิงบวก

3. รักษาระยะห่าง และหาพื้นที่ปลอดภัย

ปัญหาพฤติกรรม Gaslighting อาจมีตั้งแต่ระดับกลางไปถึงขั้นรุนแรงที่อาจทำให้เราต้องเสี่ยงชีวิต ผู้กระทำมักจะไม่ยอมลดละกับการใช้อำนาจเหนือคนอื่น ดังนั้นเราควรมีวิธีในการเว้นระยะห่าง เพื่อให้เราได้รู้สึกมีที่ปลอดภัยดังนี้

  • จำกัดภาษาและคำพูดที่ใช้

และระวังพฤติกรรมเมื่อเผชิญหน้ากับ Gaslighter

  • พยายามทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว

หากมีพฤติกรรมที่เป็นพิษ ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง

  •  พาไปพบนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อทำ counseling และทำจิตบำบัด

ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษแบบ Gaslighting ที่ต้องการควบคุม และคอนโทรลอีกฝ่ายนั้นไม่เคยเป็นเรื่องที่ควรยอมรับได้ วิธีรับมือกับความสัมพันธ์แบบ Gasligting ที่ดีที่สุดคือต้องให้ผู้กระทำมองเห็นผลกระทบของพฤติกรรมของตัวเองและควรได้รับการรักษาด้านพฤติกรรมด้วยการไปพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในการทำจิตบำบัด และรับแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังในเชิงบวกและสร้างสรรค์โดยไม่มีอคติเอนเอียงเข้าข้างตัวเอง

อย่างไรก็ตามหากคู่ของเราไม่ยอมไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเพื่อทำการบำบัด และยืนกรานว่าจะไม่ลองไป แม้คุณจะพยายามทุกวิถีทางเท่าไรก็ตาม ก็ควรต้องกลับมาทบทวนและพิจรณาถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมา และควรทำใจเพื่อปล่อยความสัมพันธ์เช่นนี้ไป เพราะมันอาจเป็นหนทางที่ดีกว่าในการเยี่ยวยาจิตใจที่บอบซ้ำของตัวเองเพื่อให้กลับมาแข็งแรงและเติบโตก้าวหน้าได้อีกครั้ง



 

อ้างอิง

https://www.talkspace.com/mental-health/conditions/articles/narcissistic-gas-lighting/

https://psychcentral.com/disorders/narcissist-gaslighting#:~:text=Narcissistic%20gaslighting%20is%20a%20form,sanity

 

https://happyproject.in/gaslighting-vs-brainwashing/

https://www.forbes.com/sites/traversmark/2022/09/24/a-psychologist-offers-3-strategies-to-stop-a-gaslighter-in-their-tracks/?sh=6b09a81a58c0



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้