EMDR Therapy อธิบายให้เข้าใจง่ายภายใน 3 นาที

13885 จำนวนผู้เข้าชม  | 

EMDR Therapy อธิบายให้เข้าใจง่ายภายใน 3 นาที

EMDR Therapy อธิบายให้เข้าใจง่ายภายใน 3 นาที

ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D)
Dr. Marid Kaewchinda 
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นักจิตบำบัด EMDR Psychotherapy/ Brainspotting Psychotherapy Practitioner

 

EMDR Therapy คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 3 นาที
EMDR Therapy (Eye Movement Desensitization and Reprocessing)
หรือ จิตบำบัดด้วยการเคลื่อนไหวดวงตา เป็นเทคนิคการบำบัดทางจิตที่ช่วยให้สมองจัดการกับ “ความทรงจำที่เจ็บปวด” หรือ “ปมบาดแผลทางใจ (Trauma)” ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้รับการบำบัดคลายจากอาการเครียด วิตกกังวล หรือ PTSD ได้โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตมากนัก

เทคนิคนี้ถูกพัฒนาโดย Dr. Francine Shapiro ในปี 1989 และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในวิธีการบำบัดที่ เห็นผลจริง รวดเร็ว และปลอดภัย ที่สุดในปัจจุบัน

ทำไม EMDR Therapy ถึงต่างจากการบำบัดทั่วไป?
EMDR ต่างจากจิตบำบัดแบบดั้งเดิมที่เน้น “การพูดคุยและระบาย”
EMDR Therapy เน้น “การทำงานของสมอง” โดยใช้การเคลื่อนไหวของดวงตา (Eye Movement) หรือสิ่งกระตุ้นทางประสาทสัมผัส (เช่น เสียง หรือการแตะเบา ๆ) เพื่อให้สมองสามารถ “ประมวลผลและจัดเก็บความทรงจำที่บิดเบือน” ได้ใหม่อย่างเป็นระบบ

ผลลัพธ์คือ ผู้เข้ารับการบำบัดจะรู้สึกว่า “ความเจ็บปวดลดลง” ความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่เคยถูกรบกวนจากอดีตเริ่มกลับมาสมดุลอีกครั้ง

EMDR ได้รับการยอมรับและผลวิจัยในเรื่องการรักษาปมบาดแผลทางใจ (Trauma) โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ(PTSD) โรควิตกกังวล (anxiety) โรคซึมเศร้า (depression) ที่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

EMDR therapy ยังถูกใช้อย่างแพร่หลายไปในหลายประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตามการบำบัดด้วยเทคนิคจิตบำบัดEMDR ควรได้รับการบำบัดโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านจิตบำบัด EMDR เท่านั้น 

 


เทคนิคจิตบำบัดแบบ EMDR therapy จะเน้นการทำงานตรงกับความทรงจำที่เป็นสาเหตุทำให้เกิด trauma หรือปมบาดแผลทางใจ กระบวนการเทคนิควิธีแบบEMDR จะทำให้สมองได้ถูกปลดล็อค ทำงานได้ตรงจุด และสมองถูกกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ใครบ้างที่เหมาะกับ EMDR Therapy

จิตบำบัดแบบ EMDR เหมาะกับทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น

  • ภาวะ Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD)
  • ความเครียดเรื้อรัง หรือ Trauma จากเหตุการณ์รุนแรง
  • โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders)
  • โรคซึมเศร้า (Depression)
  • Eating Disorders หรือภาวะการกินผิดปกติ
  • Obsessive-Compulsive Disorder (OCD)
  • Personality Disorders ภาวะบุคลิกภาพบกพร่อง
  • Panic Attack หรือการตื่นตระหนกเฉียบพลัน
ไม่เพียงแค่ผู้มีภาวะรุนแรงเท่านั้น แต่ ผู้ที่มีความเครียดสะสม ความกังวล หรือบาดแผลทางใจเล็ก ๆ ก็สามารถเข้ารับการบำบัดแบบ EMDR เพื่อปรับสมดุลจิตใจได้เช่นกัน

 

กลไกการทำงานของ EMDR Therapy


หลักการของ EMDR Therapy อ้างอิงจากทฤษฎี Adaptive Information Processing (AIP)
ซึ่งเชื่อว่าสมองเก็บ “ความทรงจำดี” และ “ความทรงจำเลวร้าย” แยกกัน
เมื่อเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ สมองจะเก็บข้อมูลอย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการตัดขาดของการเชื่อมต่อในระบบประสาท ส่งผลให้ผู้คน “ติดอยู่ในอดีต” หรือเกิดอาการเครียด วิตกกังวล ซ้ำ ๆ

เทคนิค EMDR จะช่วย “กระตุ้นการทำงานของสมอง” ด้วยการเคลื่อนไหวสายตา (หรือสิ่งกระตุ้นอื่น) เพื่อให้ระบบประสาทกลับมาเชื่อมโยงและ “จัดเก็บความทรงจำใหม่อย่างปลอดภัย” ผลคือสมองรับรู้ว่า “เหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้ว” และความเจ็บปวดค่อย ๆ จางลง


ประโยชน์ของ EMDR Therapy

  • ลดอาการ เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ได้อย่างเห็นผล
  • ช่วยให้รับมือกับ ความทรงจำเลวร้าย ได้ดีขึ้น
  • ฟื้นฟูสมดุลทางอารมณ์และพฤติกรรม
  • เพิ่มความสามารถในการควบคุมอารมณ์
  • ส่งเสริมความมั่นคงทางใจและการใช้ชีวิตประจำวัน



ทำไมการบำบัดด้วยเทคนิคจิตบำบัด  EMDR ถึงแตกต่าง?

เนื่องจาก EMDR therapy ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ทำให้เกิดปมบาดแผลทางใจ(Trauma)  EMDR therapy เป็นการทำงานกับสมองชั้นกลางและชั้นในมีความเกี่ยวข้องกับความทรงจำและการควบคุมอารมณ์ EMDR therpay เน้นการโฟกัสไปที่การปรับเปลี่ยนสภาวะทางอารมณ์ ความคิด พฤติกรรมที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากประสบการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้น และการทำงานกับสมองเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูจิตใจไปตามธรรมชาติ



การทำงานด้านจิตใจกับสมองมีความเชื่อมโยงกันผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าสมองทำหน้าที่เก็บรวบรวมความคิดความทรงจำ ความเชื่อและประสบการณ์ประกอบกันทำให้เกิดเป็นตัวเรา ตัวตนแท้จริงของเราในขณะที่ จิตใจทำงานโดยอาศัยโครงสร้างการทำงานของสมองในการสร้างเครือข่าย เชื่อมโยง สื่อสารกับเซลล์ในระบบต่างๆ โดยเฉพาะอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับจิตใจคือการทำงานที่ผ่านการสื่อสารของเซลล์ด้านความทรงจำกับการรับรู้และประสาทสัมผัสต่างๆ การเชื่อมโยงสื่อสารของระบบประสาทและเซลล์มีความไวต่อการรับรู้ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รสชาติ สัมผัส ซึ่งล้วนเชื่อมโยงกับความทรงจำและสามารถนำความทรงจำเก่ากลับขึ้นมาได้อีกเสมอ

 

 


การทำงานของ EMDR Therapy ช่วยเรื่องความทรงจำอันเลวร้ายให้ดีขึ้นได้อย่างไร?

EMDR Therapy เป็นการทำงานด้วยหลัก Adaptive Information Processing (AIP model)  โดยหลักการนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัด EMDR เชื่อว่าสมองเป็นที่รวบรวมความคิดและเป็นคลังความทรงจำ ทฤษฎี AIP ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Francine Shapiro, Ph.D. นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน โดยเชื่อว่าสมองของเราแยกเก็บความทรงจำอันเลวร้ายกับความทรงจำที่ปกติด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน

ถ้าเป็นความทรงจำปกติสมองจะมีการจัดเก็บอย่างราบลื่น มีการเชื่อมโยงกับเซลล์ประสาทอื่นๆ ทำให้เกิดการทำงานและการเก็บความทรงจำนั้นสมบรูณ์ แต่ในทางกลับกันหากเราเจอประสบการณ์ที่ไม่ดี ไม่พึงประสงค์ เหตุการณ์เลวร้าย สมองจะทำงานแบบไม่ต่อเนื่อง ไม่เชื่อมโยง ตัดขาดการติดต่อกับเซลล์อื่นๆ ทั้งด้านสัมผัสรับรู้ การมองเห็น การได้ยิน และความทรงจำจะถูกจัดเก็บที่ซ่อนอยู่ภายในสมองส่วนลึกและไม่เปิดโอกาสให้การทำงานของระบบประสาทได้มีการซ่อมแซมและรักษาเยียวยา

 



การที่ระบบเซลล์ทำงานไม่เชื่อมโยงจึงมีผลทำให้ไม่มีการสื่อสารไปยังเซลล์ประสาทเพื่อส่งสัญญาณแจ้งข้อมูลว่าความอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นได้จบลงแล้ว จึงทำให้สมองและข้อมูลความทรงจำถูกจัดเก็บไม่สมบรูณ์ เกิดเป็นปมบาดแผลทางไม่ได้รับการรักษาเยียวยา และเมื่อไรก็ตามที่เกิดสถานการณ์คล้ายเดิม ได้เห็นภาพ ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ได้สัมผัส หรือได้ลิ้มรสชาติ เหตุการณ์คล้ายเดิมเซลล์ที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับความทรงจำที่จัดเก็บไม่สมบรูณ์ก็พร้อมที่จะตอบสนองกับการถูกกระตุ้นจากความทรงจำที่อาจเป็นปมบาดแผลที่ได้ถูกซ่อนไว้ในสมองส่วนลึกและยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการถูกกระตุ้นจากความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์ในอดีตมักส่งผลทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว วิตกกังวล ทุกข์ใจ โกรธ เครียด หรือ เป็นpanic attack

บางครั้งความทุกข์ทรมานของปมบาดแผลทางใจ ( Trauma) ทำให้เกิดเป็นภาวะpost-traumatic stress disorder (PTSD) เป็นภาวะความเครียดรุนแรงจากเหตุการณ์สะเทือนใจและ เป็นปมบาดแผลทางใจที่ทำให้เราเกิดมีอาการผิดปกติทางจิตต่างๆ บางครั้งมีเห็นภาพเหตุการณ์เลวร้ายเดิมย้อนกลับขึ้นมาในความทรงจำอย่างควบคุมไม่ได้ หรือ เกิดเป็นภาวะ flashback

 



EMDR Therapy จัดการซ่อมแซมและจัดเก็บความทรงจำให้ถูกระเบียบได้อย่างไร?

เมื่อเริ่มกระบวนการ EMDR Therapy จะมีขั้นตอนการเข้าถึงเหตุการณ์อันเลวร้าย ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นในเทคนิควิธีเฉพาะของEMDR โดยใช้การเคลื่อนไหวสายตาเข้าร่วมเพื่อช่วยการทำงานของสมองให้จัดการกับความทรงจำให้ไว้ขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ ความทรงจำอันเจ็บปวดจะทำให้ยากต่อการทนทานของจิตใจ แต่ด้วยเทคนิคการรับมือกับภาวะทางใจที่รุนแรงเมื่อกลับมาเกิดอีกด้วยเทคนิค EMDR และ Grounding จะช่วยให้ภาวะจิตใจและการทำงานของสมองได้ปลดล็อค เทคนิค EMDR จะช่วยให้เราสามารถรับมือจัดการอารมณ์แปรปรวนเพราะถูกรบกวนจากความทรงจำที่เลวร้ายให้ลดระดับลงได้


 

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาใช้จิตบำบัด EMDR ในการบำบัดอาการใดบ้าง?

โดยทั่วไปการรักษาด้วย EMDR ได้ผลที่มีประสิทธิภาพโดยตรงกับการรักษาปมบาดแผลทางใจ (PTSD) แต่เมื่อได้บำบัดผู้เชี่ยวชาญกลับพบว่ามีอาการอื่นๆอีกมากมายที่ดีขึ้นหลังทำบำบัดด้วยจิตบำบัด EMDR เช่น

  • Anxiety disorders ภาวะวิตกกังวล โรคตื่นตระหนก หวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง โรคกลัวสังคม หรือกลัวบางสิ่ง
  • Depressive disorders ภาวะโรคซึมเศร้า ซึมเศร้าเรื้อรัง ความเจ็บป่วยทางร่างกายที่เป็นผลมาจากภาวะซึมเศร้า
  • Dissociative disorders ภาวะไม่เชื่อมโยงกับตัวเองหรือโรคหลายบุคลิกภาพ ไม่เชื่อมโยงกับความเป็นจริง สับสนในตัวตนของตนเอง หรือมีอาการความจำขาดหาย จำอดีตไม่ได้ ความคิดไม่เป็นระบบ (Amnesia)
  • Eating disorders โรคเกี่ยวกับการกินผิดปกติ มากเกินไปหรือน้อยไปจนเกินพอดี
  • Gender dysphoria ภาวะสับสนทางเพศสภาพ
  • Obsessive-compulsive disorders โรคย้ำคิดย้ำทำ ที่การจัดเก็บความทรงจำอันเลวร้ายนี้สมองมักจะจัด body dysmorphic disorder เป็นภาวะที่เกี่ยวกับไม่ชอบรูปร่างตัวเอง มีความคิดลบเกี่ยวกับรูปลักษณ์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการทำร้ายร่างกายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้ และ Hoarding disorder คืออาการสะสมของทุกอย่าง ไม่กล้าทิ้ง ถ้าต้องทิ้งจะเกิดความเครียด
  • Personality disorders ภาวะบุคลิกภาพบกพร่อง เช่น โรคอารมณ์รุนแรง ควบคุมความโกรธตัวเองไม่ได้ โรคหลีกหนีสังคม โรคต่อต้านสังคม เป็นต้น
  • Trauma disorders โรคที่เกิดจากปมบาดแผลทางใจ เช่น โรคเครียดจัด รุนแรง โรค PTSD และโรคการปรับตัว เป็นต้น

 

สรุป: EMDR Therapy คือการเยียวยาด้วยสมองและหัวใจ
EMDR Therapy ไม่ใช่เพียงเทคนิคบำบัดทางจิต แต่เป็นการ “ฟื้นฟูสมองและจิตใจ” ให้กลับมาทำงานอย่างสมดุล ด้วยกระบวนการธรรมชาติของร่างกายเอง

หากคุณกำลังเผชิญกับความเครียดเรื้อรัง ความทรงจำที่เจ็บปวด หรืออาการซึมเศร้าที่ไม่หายขาด การเข้ารับ จิตบำบัด EMDR กับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง อาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง


 



 

อ้างอิง

https://my.clevelandclinic.org/health/treatments

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้