Schizophrenia คืออะไร? ทำไมโรคจิตเภทจึงพบมากในคนไทย

30 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Schizophrenia คืออะไร? ทำไมโรคจิตเภทจึงพบมากในคนไทย

Schizophrenia คืออะไร? ทำไมโรคจิตเภทจึงพบมากในคนไทย

 

ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner

 
Schizophrenia (โรคจิตเภท) เป็นโรคทางจิตเวชที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย หลายคนเข้าใจผิดว่าโรคนี้คือ “คนหลายบุคลิก” แต่จริง ๆ แล้ว Schizophrenia เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมี การรับรู้ ความคิด และพฤติกรรมผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้แยกไม่ออกว่าความจริงคืออะไร

ในประเทศไทย โรคนี้จัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิตอันดับต้น ๆ ที่พบได้ในคนวัยทำงานและวัยรุ่น โดยหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ในครอบครัว

 

 

Schizophrenia คืออะไร?
โรคจิตเภท (Schizophrenia) คือความผิดปกติของสมองและระบบประสาทที่ทำให้ผู้ป่วยมีความคิด พฤติกรรม และการรับรู้ที่แตกต่างไปจากความเป็นจริง ผู้ป่วยอาจมี อาการประสาทหลอน (Hallucinations), ความคิดหลงผิด (Delusions), หรือ การพูดและพฤติกรรมที่สับสน

โรคนี้มักเริ่มแสดงอาการในช่วงอายุ 15–35 ปี และหากไม่ได้รับการรักษา อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ


สาเหตุของ Schizophrenia
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ โรคจิตเภท แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น:

  • พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคจิตเภท ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้น
  • สารเคมีในสมองผิดปกติ: โดยเฉพาะสารโดพามีน (Dopamine) และกลูตาเมต (Glutamate)
  • โครงสร้างสมอง: ผู้ป่วยบางรายมีสมองบางส่วนทำงานแตกต่างจากคนทั่วไป
  • สิ่งแวดล้อมและความเครียด: การใช้สารเสพติด เหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ หรือความเครียดรุนแรง อาจกระตุ้นให้เกิดอาการ


อาการของโรคจิตเภท
อาการของ Schizophrenia สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก:

อาการบวก (Positive Symptoms)

  • ประสาทหลอน (เห็นภาพ ได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง)
  • ความคิดหลงผิด (เชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นจริง เช่น มีคนจะทำร้าย)
  • พฤติกรรมแปลกประหลาด ควบคุมตนเองไม่ได้

อาการลบ (Negative Symptoms)

  • ขาดความกระตือรือร้น
  • พูดน้อย สีหน้าเรียบเฉย
  • ไม่สนใจสิ่งรอบตัว
  • อาการด้านความคิด (Cognitive Symptoms)
  • สมาธิสั้น
  • ความจำแย่ลง
  • จัดลำดับความคิดได้ยาก

 



การรักษาโรคจิตเภท


การรักษา Schizophrenia จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากแพทย์ โดยวิธีหลัก ๆ ได้แก่:

  • การใช้ยา: ยาต้านโรคจิต (Antipsychotic Drugs) เป็นวิธีหลักที่ช่วยลดอาการประสาทหลอนและหลงผิด
  • จิตบำบัด: เช่น การบำบัดพฤติกรรมและความคิด EMDR, Brainspotting, CBT ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจอาการและจัดการกับความเครียด
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม: เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้
  • การสนับสนุนจากครอบครัว: มีบทบาทสำคัญในการดูแลและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ


ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Schizophrenia
โรคจิตเภทสามารถควบคุมได้ หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยไม่ได้มีหลายบุคลิก แต่มีความคิดและการรับรู้ที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง หากผู้ป่วยหยุดยาเอง มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นซ้ำ
การรักษาเร็วตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยเพิ่มโอกาสในการใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ

 

การรักษาด้วย EMDR Therapy และ Brainspotting
Schizophrenia (โรคจิตเภท) เป็นโรคทางจิตเวชที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อการคิด การรับรู้ และพฤติกรรมของผู้ป่วย หลายคนสงสัยว่า Schizophrenia รักษาหายไหม และนอกจากการใช้ยาแล้ว ยังมีวิธีการบำบัดทางจิตวิทยาอย่าง EMDR Therapy และ Brainspotting ที่ช่วยเสริมการรักษาได้หรือไม่

 

Schizophrenia คืออะไร?
โรคจิตเภทคือภาวะที่สมองทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการเช่น:

  • ประสาทหลอน (Hallucinations) เช่น ได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง
  • ความคิดหลงผิด (Delusions) เช่น เชื่อว่ามีคนจะทำร้าย
  • ความคิดและการพูดสับสน
  • อารมณ์และแรงจูงใจลดลง
  • โดยทั่วไป การรักษา Schizophrenia มักใช้ ยาต้านโรคจิต (Antipsychotics) เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีการนำ วิธีบำบัดทางจิตใจ เข้ามาเสริม เพื่อช่วยผู้ป่วยรับมือกับบาดแผลทางใจและพัฒนาคุณภาพชีวิต

 

 

ความเชื่อมโยงระหว่าง Schizophrenia และ Trauma
งานวิจัยจำนวนมากพบว่า ผู้ที่มีประวัติ Trauma ในวัยเด็ก เช่น การถูกทำร้าย รังแก หรือสูญเสีย อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเกิดโรคจิตเภท และ Trauma ยังอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้ด้วย

ดังนั้น การบำบัดที่มุ่งเน้นการจัดการกับ Trauma เช่น EMDR Therapy และ Brainspotting จึงเริ่มถูกนำมาใช้ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์

EMDR Therapy กับผู้ป่วย Schizophrenia

EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) คือการบำบัดที่ใช้การเคลื่อนไหวดวงตาหรือการกระตุ้นประสาทสัมผัสสองข้าง เพื่อช่วยสมองประมวลผลและลดความรุนแรงของบาดแผลทางใจ

สำหรับผู้ป่วย Schizophrenia:EMDR ไม่ได้รักษาอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนโดยตรง แต่ช่วยบำบัด บาดแผลทางใจ (Trauma) ที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการรุนแรงขึ้น

งานวิจัยบางชิ้นพบว่า EMDR ช่วยลด อาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล ในผู้ป่วยโรคจิตเภทได้

Brainspotting กับผู้ป่วย Schizophrenia

Brainspotting เป็นเทคนิคการบำบัดที่พัฒนาโดย Dr. David Grand ซึ่งใช้ “ตำแหน่งการมองของดวงตา” (Eye Position) เพื่อเข้าถึงความทรงจำหรือบาดแผลที่เก็บไว้ในสมองส่วนลึก

สำหรับ Schizophrenia: Brainspotting อาจช่วยผู้ป่วยจัดการกับ อารมณ์ ความเครียด และ Trauma ที่เกี่ยวข้อง เหมาะเป็นการบำบัดเสริม (Adjunct Therapy) ควบคู่กับการใช้ยาและการดูแลโดยจิตแพทย์
ช่วยให้ผู้ป่วยมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ และลดผลกระทบจากความทรงจำเจ็บปวด

สรุป: Schizophrenia กับการบำบัดสมัยใหม่
Schizophrenia ต้องได้รับการรักษาหลักด้วยยาและการดูแลจากแพทย์
EMDR Therapy และ Brainspotting ไม่ใช่วิธีรักษาโดยตรง แต่สามารถใช้เสริมเพื่อช่วยผู้ป่วยจัดการกับ Trauma, ความเครียด และภาวะร่วมอื่น ๆ เช่น วิตกกังวลหรือซึมเศร้า การรักษาแบบผสมผสาน (ยา + จิตบำบัด + การสนับสนุนจากครอบครัว) จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 




FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคจิตเภท
Q: Schizophrenia รักษาหายขาดไหม?
A: ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาและการดูแลต่อเนื่อง

Q: โรคจิตเภทต่างจากโรคซึมเศร้าอย่างไร?
A: โรคจิตเภทเกี่ยวข้องกับการรับรู้ผิดปกติ เช่น ประสาทหลอนหรือหลงผิด ขณะที่โรคซึมเศร้าเกี่ยวข้องกับอารมณ์เศร้าหมองและหมดแรงจูงใจ

Q: ใครมีความเสี่ยงเป็นโรคจิตเภทมากที่สุด?
A: คนที่มีพันธุกรรม ครอบครัวมีประวัติ และผู้ที่เผชิญความเครียดรุนแรงหรือใช้สารเสพติด

Q: ผู้ป่วย Schizophrenia อันตรายหรือไม่?
A: ไม่ใช่ผู้ป่วยทุกรายจะมีพฤติกรรมรุนแรง ส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม



Schizophrenia (โรคจิตเภท) เป็นโรคทางจิตเวชที่ต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจโรคนี้อย่างถูกต้องจะช่วยลดอคติและช่วยให้ผู้ป่วยได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้