วิธีจัดการความคิดวิตกกังวล

37 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีจัดการความคิดวิตกกังวล

วิธีจัดการความคิดวิตกกังวล

 

 

 

ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner 

 

การจัดการความวิตกกังวลอย่างได้ผล ไม่ใช่แค่ “ไล่มันออกไป” แต่คือการเรียนรู้วิธี “อยู่กับมัน” อย่างสงบและไม่ให้มันควบคุมชีวิตคุณ ซึ่งวิธีที่ได้ผลจริงมีทั้งทางจิตใจ ร่างกาย และพฤติกรรม รวมกัน ดังนี้:

 1. การเปลี่ยนมุมมองความคิด (Cognitive Reframing)

ถามตัวเองว่า:

  • “สิ่งที่ฉันกังวล มีหลักฐานจริงแค่ไหน?”
  • “มันเคยเกิดขึ้นไหม และถ้าเกิด ฉันผ่านมันมาได้อย่างไร?”
  • เปลี่ยนความคิด เช่น จาก “ฉันทำไม่ได้แน่” เป็น “ฉันอาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันพยายามได้”

 2. เทคนิคผ่อนคลายร่างกายและประสาท

  • หายใจช้าและลึก (4-4-8): หายใจเข้า 4 วินาที กลั้นหายใจ 4 วินาที ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ 8 วินาที
  • ทำซ้ำ 3–5 นาที จะช่วยลดการเต้นของหัวใจและคลายความตึงเครียด
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทีละส่วน
  • เกร็งและคลายกล้ามเนื้อ เช่น มือ แขน หน้าอก ขา แบบสลับกัน
  • ช่วยให้ร่างกายสั่งสมองว่า "ฉันปลอดภัย"


3. การขยับร่างกาย
  • การออกกำลังกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง โยคะ หรือเต้น ช่วยหลั่งสาร เอ็นโดรฟิน และเซโรโทนิน
  • เพียง 20–30 นาที จะช่วยลดความวิตกกังวลได้จริง

     
4. การเขียนความคิดลงในกระดาษ
เขียนว่า:
  • ฉันกังวลเรื่องอะไร?
  • สิ่งที่ควบคุมได้ vs. ควบคุมไม่ได้
  • จากนั้น “ลงมือทำ” เฉพาะสิ่งที่ควบคุมได้

 5. หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น
  • ลด/เลี่ยงคาเฟอีน (กาแฟ/ชา/น้ำอัดลม) แอลกอฮอล์
  • การนอนดึก
  • การเสพข่าว/โซเชียลเกินพอดี


 6. ฝึกสติ (Mindfulness)

  • ลองทำสมาธิวันละ 5–10 นาที โดยไม่ต้องบังคับจิต
  • มี App ดีๆ เช่น Calm, Insight Timer, หรือ Smiling Mind
7. พูดกับคนที่ไว้ใจ
  • พูดถึงความกังวลกับเพื่อน คนในครอบครัว หรือนักจิตวิทยา
  • บางครั้งแค่มีคนรับฟังก็ทำให้ใจเบาลง


 8. นอนให้เพียงพอ

  • นอนอย่างน้อย 7–8 ชั่วโมง/คืน
  • เข้านอน/ตื่นให้ตรงเวลา ช่วยให้ระบบสมองควบคุมอารมณ์ดีขึ้น 

 

อย่างไรก็ตามความวิตกกังวลไม่ใช่ศัตรู แต่คือ “สัญญาณ” บางอย่าง แต่ถ้ามากเกินจนรบกวนชีวิต แนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และหากเราต้องการแผนส่วนตัว หรืออยากเล่าให้ฟังว่ากังวลเรื่องอะไรอยู่ให้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสามารถช่วยวิเคราะห์และแนะนำวิธีเฉพาะก็สามารถทำได้เช่นกันและเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกวิธี

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับ การเงินและการงานในอนาคต เป็นเรื่องที่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะในยุคที่มีความไม่แน่นอนสูง นักจิตวิทยาสามารถช่วยคุณจัดการกับความวิตกนี้ได้ในหลายแง่มุม โดยเน้นที่การปรับความคิด สร้างความมั่นคงทางใจ และพัฒนาทักษะจัดการชีวิตอย่างเป็นระบบ นักจิตวิทยาช่วยเราได้อย่างไรในเรื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเงินและการงานในอนาคต นักจิตวิทยาไม่ได้เปลี่ยนอนาคตให้คุณได้ทันที แต่เขาช่วยให้คุณ “จัดการใจ” เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนอย่างมั่นคง และเป็นระบบ

 



นักจิตวิทยาช่วยให้เราอย่างไรบ้าง?

1. เข้าใจที่มาของความวิตก

ช่วยคุณแยกแยะว่า ความวิตกเป็นเรื่องที่อยู่ในความควบคุมหรือไม่
สำรวจว่า ความเชื่อหรือความคิดแบบไหน (เช่น "ถ้าฉันไม่มีเงินพอ ฉันก็ล้มเหลว") กำลังขยายความวิตก
ระบุ "ความกลัวหลัก" เช่น กลัวล้มเหลว, กลัวตกงาน, กลัวไม่มีบ้านอยู่ ฯลฯ

2. ใช้เทคนิคทางจิตวิทยาช่วยปรับความคิด เช่น

  • Cognitive restructuring
  • Cognitive reframing
  • CBT (Cognitive Behavioral Therapy)
  • หรือเทคนิคอื่นๆเข้าร่วมเช่น EMDR และ Brainspotting ที่จะช่วยให้คุณ:ท้าทายความคิดแบบหายนะ (catastrophic thinking) เช่น "ถ้าฉันตกงาน ฉันคงไม่มีทางกลับมายืนได้อีก"
  • ฝึกมองสถานการณ์แบบสมดุล และใช้เหตุผลมากขึ้น เช่น “ตอนนี้ฉันยังมีทักษะ มีเวลา และมีทางเลือกที่ยังพอหาได้”
  • เขียนตารางความเสี่ยง: แยกว่า “อะไรคือความเป็นไปได้จริง” กับ “อะไรคือความกลัวที่คิดไปเอง”


 3. เสริมความรู้สึกควบคุมและมีทางเลือก

นักจิตวิทยาอาจช่วยคุณ:

  • วางแผน จัดการการเงินเบื้องต้น
  • ทำ “แผนสำรอง” สำหรับอาชีพ หรือรายได้
  • สร้าง "ทางเลือก" ให้เห็นว่าคุณไม่ได้ติดอยู่แค่ทางเดียว
4. ลดความเครียดทางร่างกายจากความวิตกกังวล
  • สอนเทคนิคการหายใจ, ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ, ฝึกสติ (Mindfulness)
  • ฝึกอยู่กับปัจจุบัน ไม่ให้จิตใจวิ่งล่วงหน้าไปยังอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น
5. ให้พื้นที่ปลอดภัยในการระบาย
  • แค่การได้พูดความกังวลออกมาอย่างเปิดเผยกับคนที่ไม่ตัดสิน ก็ช่วยลดความหนักทางใจได้มาก
  • นักจิตวิทยาเป็น “กระจกสะท้อน” ที่ช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองลึกขึ้น โดยไม่วิจารณ์

 6. ช่วยวางเป้าหมายชีวิตแบบจับต้องได้
จาก "กังวลว่าอนาคตจะไม่มั่นคง" → เป็นแผนการที่แบ่งย่อย เช่น
  • เพิ่มรายได้ใน 3 เดือน
  • เรียนเสริมทักษะใหม่ใน 6 เดือน
  • มีเงินฉุกเฉิน 3 เดือนใน 1 ปี




วิธีการจัดการความวิตกกังวลเรื่องการเงินและ อนาคตในอาชีพการงาน เรื่อง การเงิน และ อนาคตในอาชีพการงาน เป็นหนึ่งในความกังวลที่พบบ่อยและเข้าใจได้มาก — เพราะมันเกี่ยวข้องกับ “ความมั่นคง” และ “คุณค่าในตัวเรา” ซึ่งเป็นพื้นฐานของชีวิตหลายด้าน นักจิตวิทยาสามารถช่วยให้เรามีวิธีรับมือที่ได้ผลทั้งในมุมจิตใจ การวางแผน และการฟื้นความมั่นใจ เช่นช่วยให้เราสามารถ:

 1. จัดการ “ความคิดฟุ้งซ่าน”

  • ใช้เทคนิค "ความคิดไม่เท่ากับความจริง"
  • ตัวอย่าง: “ฉันจะไม่มีทางมีเงินพอ” → ถามตัวเองว่า: นี่คือข้อเท็จจริง หรือความกลัว?
  • เคยมีช่วงที่ฉันผ่านพ้นวิกฤตคล้าย ๆ นี้ไหม?
  • ฉันมีทางเลือกอะไร แม้เพียงเล็กน้อย ที่ยังไม่ได้ลอง?
  • เป้าหมาย: เปลี่ยนความคิดจาก หายนะล่วงหน้า → ความเป็นไปได้จริงที่ควบคุมได้
 2. วางแผนการเงินแบบไม่ตึงเครียดเกินไป
  •  วิธีเริ่มต้น: ตรวจดูรายรับ–รายจ่าย อย่างตรงไปตรงมา
  • วางแผนแบ่งเงินง่าย ๆ: 50% ความจำเป็น (กินอยู่) 30% ใช้จ่ายทั่วไป 20% ออม/หนี้
  • ใช้ App ช่วยจัดการ เช่น Money Lover, YNAB, หรือจดใส่สมุดธรรมดาก็ได้
  • ตั้งเป้าเล็กๆ ที่จับต้องได้ เช่น เก็บเงินฉุกเฉินให้ได้ 10,000 บาทภายใน 3 เดือน หรือ หางานเสริมหรือรายได้เสริม 1 อย่างภายในเดือนนี้

 3. วางแผนอาชีพแบบเป็นขั้นตอน (แม้ยังไม่ชัด)
  • เทคนิค “วงกลมอาชีพ”: สิ่งที่ทำได้ (ทักษะ/ประสบการณ์) สิ่งที่ชอบ (งานที่อยากตื่นมาทำ) สิ่งที่ตลาดต้องการ (อาชีพ/อุตสาหกรรมที่กำลังโต)
4. สิ่งที่ให้รายได้ → ตรงกลางของวงกลมเหล่านี้ = ทิศทางที่น่าค้นหา
ถามตัวเอง:
  • ฉันเก่งเรื่องอะไรที่คนอื่นอาจจ่ายเงินให้ได้?
  • ฉันมีทักษะอะไรที่สามารถพัฒนาเพิ่มได้ใน 3–6 เดือน?
  • ฉันสามารถหารายได้เสริมได้ไหม (เช่น ขายของ, รับฟรีแลนซ์, ติว, เขียนบทความ ฯลฯ)


5.. กลับมาที่ “สิ่งที่ควบคุมได้วันนี้”

เมื่อกังวลอนาคต ให้ดึงใจกลับมาที่ “1 ก้าววันนี้ที่เราทำได้” ตัวอย่าง:

  • เขียนเรซูเม่ใหม่
  • ส่งอีเมลหางานใหม่ 1 ตำแหน่ง
  • เรียนออนไลน์วันละ 30 นาที
  • โทรหาคนที่ช่วยให้คำแนะนำได้




อย่างไรก็ตามหากยังรู้สึกหนักใจหรือรู้สึกว่ามันมากเกินจะรับมือไม่ควรปล่อยความวิตกกังวลทิ้งไว้โดยไม่จัดการเรามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทางออกที่ดีกว่า นักจิตวิทยาช่วยเรื่องความเครียด ความรู้สึกไร้คุณค่า ส่วนโค้ชด้านอาชีพช่วยวางแผนเส้นทางอาชีพได้ หรือแค่พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ ก็ช่วยปลดล็อกความคิดได้มาก

สรุป:

  • วิธีสู้กับความกังวลเรื่องการเงินและอนาคต
  • แยก “ความกลัว” ออกจาก “ความจริง”
  • วางแผนเล็ก ๆ แต่สม่ำเสมอ
  • พัฒนาอาชีพอย่างมีเป้าหมายในสิ่งที่ควบคุมได้
  • ดึงสติเสมอว่า “ฉันไม่ต้องแก้ทุกอย่างวันนี้”
  • อย่ากลัวขอความช่วยเหลือ

หากคุณอยากให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในการช่วยพัฒนาสุขภาพจิตให้ดีมีความสุขสามารถต่อสู้กับปัญหาภายนอกได้และมีทักษะการแก้ปัญหาในชีวิตสามารถมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้สามารถได้รับแนวทางและทางออกที่เหมาะกับคุณได้

 

อ้างอิง

https://www.mayoclinichealthsystem.org/hometown-health/speaking-of-health/11-tips-for-coping-with-an-anxiety-disorder
https://www.apa.org/topics/anxiety/disorders

 




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้