6 วิธีที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากอาการโศกเศร้าเมื่อต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
2983 จำนวนผู้เข้าชม |
6 วิธีที่ช่วยให้เราหลุดพ้น
จากอาการโศกเศร้า
เมื่อต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
ดร. มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อเกิดการสูญเสียคนที่รัก เราหนี้ไม่พ้นที่จะต้องเจอประสบการณ์ความรู้สึกอันสะเทือนใจ บางครั้งอาจทำเราชาไปทั้งตัว เกิดความสับสน ช็อค ไม่อยากรับรู้ ปฎิเสธการยอมรับความจริงว่ามันได้เกิดขึ้น เศร้าโศรกเสียใจ หัวใจสลาย โหยหาเรียกร้องอยากให้คนนั้นกลับมา หรือในบางครั้งก็อาจมีอารมณ์โกรธร่วมด้วย
แต่อย่างไรก็ตามความตายและการพลัดพรากและการสูญเสียนั้น เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมนุษย์ และมันก็ได้สอนความหมายบางอย่างให้กับชีวิตของเรานั่นก็คือชีวิตนั้นมีคุณค่า และหากเราต้องประสบพบเจอกับความสูญเสียหรือการพลัดพรากจากคนที่เรารักจริงๆเราควรจะจัดการกับประสบการณ์อันเลวร้ายนี้อย่างไร
สมาคมสุขภาพจิตแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ Mental Health America ได้แนะนำวิธีการเอาชนะความสูญเสียพลัดพรากจากคนที่รักไว้เราสามารถนำไปปฎิบัติเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้นได้ดังนี้
1. อยู่รอบข้างคนที่ให้ความรักและเป็นกำลังใจ
เราควรอยู่ใกล้ชิดญาติ พี่น้อง เพื่อฝูง หรือคนที่คอยห่วงใยเรา หรือ ร่วมกลุ่มคนที่มารับการปรึกษาเรื่องการสูญเสียเหมือนเรา อยู่ใกล้คนที่ให้การสนับสนุนเป็นกำลังใจเพื่อให้เราผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้
2. คอยดูแลตัวเอง
ให้โฟกัสไปที่ปัจจุบันและดูแลตัวเองเรื่องสุขภาพ การกินน การนอน ไปพบผู้เชี่ยวชาญหากต้องการความช่วยเหลือ
3. ขอความช่วยเหลือ
หากเราไม่สามารถผ่านมันไปได้ด้วยตัวเองเราควรให้ผู้อื่นช่วยเหลือเรา
4. เลื่อนเวลาการตัดสินใจใหญ่ๆออกไปก่อน
หลังการสูญเสียอาจมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการเช่น ขายบ้าน ย้ายงาน เข้ามารบกวนทำให้ต้องตัดสินใจให้เลื่อนการตัดสินใจนั้นออกไปก่อน
5. อาจไปพบนักจิตวิทยา
การไปพบนักจิตวิทยาเพื่อได้รับการบำบัดด้านจิตใจเรื่องความเครียดจากการสูญเสีย อาจทำให้ได้รับการแนะนำที่ได้ผลรวดเร็วกว่าและอาจพบวิธีที่ดีกว่า
6. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่
หากิจกรรมทำในทุกๆวัน เขียนเป็นแผนกำหนดการไว้ว่าเราจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เช่น ออกกำลังกายกับเพื่อน เข้าเรียนวิชาใหม่ๆ ไปเยี่ยมลูกหลาน หรือหาวิธีใหม่ๆที่ให้เราผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้
อ้างอิง
https://www.kendalathome.org/blog/6-ways-to-cope-with-grief
https://www.psychologytoday.com/us/blog/mindful-anger/202008
